นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นและผลักดันเทรนด์ Pet Parent ผลักดันการเปิดตลาดสินค้าชนิดใหม่ในการส่งออก ยกระดับคุณภาพสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทย เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลก ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ได้นำทัพผู้ประกอบการสินค้าสัตว์เลี้ยงของไทย เปิดตลาดที่ไต้หวัน ในงาน Taipei Pets Show 2024 เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าไทย จับคู่ธุรกิจ เพิ่มพันธมิตรทางการค้าสำหรับผลิตภัณฑ์สินค้าสัตว์เลี้ยงของไทย ส่งเสริมมูลค่าการส่งออกไทย
สินค้าสัตว์เลี้ยงของไทยเป็นสินค้าที่มีคุณภาพเป็นที่ต้องการในตลาดโลก ไต้หวันนำเข้าสินค้าสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสินค้าอาหารสุนัขและแมว (HS-Code: 230910) จากไทยมากเป็นอันดับ 1 ข้อมูลปี 2566 พบว่า มูลค่าการนำเข้าสินค้าชนิดนี้ของไต้หวันจากต่างประเทศรวมทั้งหมด 263.72 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นการนำเข้าจากไทยมูลค่า 87.18 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.05 ของการนำเข้าสินค้าอาหารสุนัขและแมวทั้งหมด
รัฐบาลโดยสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้จัด “โครงการส่งเสริมสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงบุกตลาดไต้หวัน ในงานแสดงสินค้า Taipei Pets Show 2024” ระหว่างวันที่ 5-8 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อพาผู้ประกอบการสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงจากไทยที่ได้รับการคัดเลือกจำนวน 18 ราย ร่วมแสดงสินค้าภายในงาน รวมถึงร่วมเจรจา จับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย สำหรับสินค้าประเภท อาหาร-ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงการบริการและผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อสัตว์เลี้ยง
สำหรับงานปีนี้มีจำนวนคูหาจัดแสดงมากถึง 1,800 คูหา จากจำนวนผู้ร่วมจัดแสดงประมาณ 400 ราย เป็นผู้ประกอบการต่างชาติ อาทิ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไทย จีน และญี่ปุ่น มีผู้เข้าชมงานประมาณ 160,000 ราย เป็นผู้ซื้อต่างชาติประมาณร้อยละ 10
คูหาจัดแสดงของประเทศไทยได้รับความสนใจจากผู้นำเข้าจากไต้หวันและหลากหลายประเทศ ทั้งนี้ ได้มีการเชิญผู้นำเข้ารายสำคัญมาเยี่ยมชมคูหาไทยและเจรจาธุรกิจกับผู้ส่งออกไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่จัดซื้อจากห้างสรรพสินค้า และ ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ของไต้หวันทั้ง RT - Mart และ Carrefour รวมถึง Great Tree ร้านขายยาชื่อดังของไต้หวัน
ผู้ส่งออกไทยมีโอกาสเจรจากับผู้นำเข้าประมาณ 200 รายจากไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่น อาเซียน ตะวันออกกลาง และฝรั่งเศส เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีมูลค่าการสั่งซื้อมากกว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี
“นายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นนำเสนอคุณภาพของสินค้าของไทยในตลาดโลก เพื่อเพิ่มช่องทางตลาดในการส่งออกสินค้า เพิ่มชนิดและปริมาณสินค้าในการส่งออก โดยจับกระแส Pet Parent และแนวโน้มในตลาดโลก เพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้พี่น้องชาวไทย ทั้งนี้ รัฐบาลยังคงเดินหน้าสร้างพันธมิตรเครือข่ายทางธุรกิจให้กับสินค้าชนิดใหม่ๆ ของไทย เข้าถึงโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจไปสู่ระดับโลก” นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ขณะที่ นายกฯเศรษฐา ได้เผยผ่านโซเชียลมีเดียว่า ‘ตอนนี้ เทรนด์ Pet Parent หรือการดูแลน้องหมา น้องแมวเหมือนลูกมาแรงมาก ๆ ครับ ทำให้ห้าง ร้าน คาเฟ่ ก็ต่างปรับตัวเป็น Pet Friendly กันเยอะขึ้น เช่นเดียวกับ ธุรกิจที่เกิดใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของพ่อแม่ ผู้ปกครอง ทั้งโรงแรม โรงเรียน สระว่ายน้ำ สปา ไปจนถึง อาหาร เสื้อผ้า และของใช้ Gadget อย่างน้ำพุให้น้ำ เครื่องอบขนหลังอาบน้ำ หรือเครื่องให้อาหารอัตโนมัติผ่าน WIFI ที่ตอบโจทย์คนวัยทำงาน
ผมก็เป็นหนึ่งในคนรักหมา แต่ละเดือนก็ใช้จ่ายกับน้องไปพอสมควรเลยครับ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ ‘ตลาดสัตว์เลี้ยง’ โตอย่างต่อเนื่องมาซักละระยะแล้ว และจากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปี 2566 พบว่าธุรกิจนี้สามารถสร้างรายได้กว่า 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งผมคิดว่านี่คือโอกาสทองของนักธุรกิจไทยที่เก่งทางด้านการผลิตและบริการ รวมถึงโอกาสของภาคการท่องเที่ยวที่พาสัตว์เลี้ยงไปด้วยกันได้ ทำให้มีกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย นักธุรกิจไทยห้ามพลาดโอกาสนี้นะครับ’