วันที่ 19 ก.ย. เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่า เป็นผลงานระดับโลกชิ้นแรกในรัฐบาลเศรษฐาหรือไม่ ภายหลังองค์การยูเนสโกประกาศเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลกว่า คงจะมีงานอื่นๆ อีกบ้าง แต่ในส่วนของกระทรวงวัฒนธรรม ถือเป็นงานที่เราภูมิใจที่สุด ในฐานะรัฐมนตรีว่าการถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง จากพื้นที่ศรีเทพไปสู่ระดับนานาชาติ
เสริมศักดิ์ กล่าวว่า เรายังมีนโยบายในการที่จะสร้างทักษะใน 10 อุตสาหกรรม ให้ประชาชนได้มีพื้นที่ในการทำงาน ในเมื่อเรามีเมืองมรดกโลก ก็ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ คาดว่าคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม 2,000-3,000 คน นั่นจะส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยว และก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพในที่สุด รวมถึงในเวลาอันใกล้นี้ ก็ได้เล็งที่จะเสนอพื้นที่ทางวัฒนธรรมใน จ.อุดรธานี และจ.บุรีรัมย์ เพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกต่อไป
ขณะที่ข้อกังวลของ สส.พรรคก้าวไกล เรื่องการสร้างรถไฟความเร็วสูงผ่านเมืองโบราณอยุธยานั้น เสริมศักดิ์ กล่าวว่า ทราบเพียงแค่ว่ามีกระทู้ถามในเรื่องนี้ จึงให้ทางวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปศึกษาดูว่า การสร้างรถไฟความเร็วสูงจะกระทบกับการคมนาคม และวัฒนธรรมของภาพรวมยังไง เพราะแต่ละอย่างต้องไปด้วยกันได้ เพื่อให้กระทรวงคมนาคม สามารถทำงานต่อเนื่อง รวมถึงการปรับปรุงอย่างไร แต่เท่าที่ได้สั่งการให้ไปศึกษามานั้น ยังไม่ได้รับรายงาน จึงวิเคราะห์อะไรไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า หากมีการสร้างรถไฟความเร็วสูงจะทำให้เมืองโบราณอยุธยาถูกถอนออกจากเมืองมรดกโลกหรือไม่ เสริมศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราต้องรับฟัง เพราะเราต้องรักษา และต่อยอดมรดกโลกไว้ แต่ย้ำว่า ขอให้มีการศึกษามาก่อนที่จะเข้าที่ประชุม เพื่อให้ได้ข้อสรุปทั้งสองฝ่าย เพราะจุดมุ่งหมายก็เพื่อพี่น้องประชาชน
“ไปถอดมรดกโลกมันทำยาก เพราะมันคือการชื่นมยินดีของคนทั้งโลก แต่ต้องดูว่า จุดที่เหมาะสมอยู่ตรงไหน ทางกระทรวงวัฒนธรรมจะแก้ไขอย่างไร แต่ยังดูไม่ออก เพราะยังไม่เห็นสภาพ และฝ่ายเราจะเจรจาเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ทางด้านวัฒนธรรม และคมนาคม” เสริมศักดิ์ กล่าว