การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ของไทยในอดีต มีความเชื่อที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กทารกที่ถูกถ่ายทอดต่อๆ กันมา อาทิ การกินอาหารเสริมคู่กับนมแม่เพราะกลัวว่าจะไม่อิ่มท้อง หรือการกินน้ำหลังกินนมแม่ทุกครั้งเพื่อล้างปากให้สะอาด ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ให้คำแนะนำว่าเด็กทารกควรได้กินนมแม่อย่างเดียวตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน
จากรายงานการสำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย MICs 6 (MICs: Multi Indicator Cluster Survey) ล่าสุด พ.ศ.2565 ประเทศไทยมีอัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนร้อยละ 28.6 ส่วนเด็กที่กินนมแม่เป็นหลักควบคู่กับน้ำและเครื่องดื่มที่มีน้ำเป็นส่วนผสมนั้นมีจำนวนมากถึงร้อยละ 45.3
มูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย จึงได้ดำเนิน โครงการสร้างสุขภาวะเด็กไทยด้วยนมแม่ ฝ่าวิกฤติโควิด-19 และสานพลังเครือข่ายสู่การขยายผล เพื่อชวนทุกภาคส่วนในสังคมไทยมาร่วมกันในการขับเคลื่อนและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้เกิดการปฏิบัติอย่างยั่งยืนในสังคมไทย สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และการเลี้ยงดูคู่การเรียนรู้อย่างเหมาะสมกับช่วงวัย โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)
พ.ญ.ศิริพร กัญชนะ ประธานมูลนิธิศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก(WHO) ได้บรรจุการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนแรก เป็นตัวชี้วัดด้านโภชนาการระดับโลก ที่ทุกประเทศต้องร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อร่วมกันก้าวไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยประเทศไทยมีเป้าหมายว่าในปี 2568 เด็กทารกร้อยละ 50 จะต้องได้กินนมแม่อย่างเดียวถึง 6 เดือน
“เด็กทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือนต้องกินนมแม่อย่างเดียวโดยไม่มีน้ำ ของเหลวหรืออาหารอื่นใด และกินนมแม่ควบคู่อาหารตามวัยจนถึงอายุ 2 ปีหรือนานกว่านั้น เป็นนโยบายของ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่สนับสนุนให้เด็กไทยทุกคนได้กินนมแม่อย่างเต็มที่ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก(WHO) ดูจากการสำรวจ MICs 6 ล่าสุดประเทศไทยมีเด็กที่กินนมแม่ควบคู่กับน้ำและอื่นๆ ที่มีน้ำเป็นส่วนผสมมากถึงร้อยละ 45.3 ดังนั้นถ้าเราช่วยกันรณรงค์ทำความเข้าใจกับสังคมให้ถูกต้องถึงเรื่องของการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ว่า เด็กทารกตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 เดือนนั้นนมแม่อย่างเดียวก็เพียงพอ ก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ โดยมีผลลัพธ์คือสุขภาวะของเด็กไทยที่จะเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ”
ด้านนักแสดงสาวมากความสามารถ “บุ๋ม” ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ที่ตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่ไปกับอาหารตามวัยให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ กล่าวว่า แม้จะมีงานรัดตัวตั้งแต่วันแรกๆ หลังคลอด แต่ก็ไม่ยอมให้งานมาเป็นอุปสรรคในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือนโดยไม่กินน้ำ พร้อมกับระบุว่าการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องง่ายเพราะเป็นของที่มีอยู่ในตัวของเราอยู่แล้ว อีกทั้งยังมั่นใจว่านมแม่เป็นสิ่งที่ปลอดภัยและดีที่สุดสำหรับลูกของเรา
“ความเชื่อเดิมบอกว่าให้นมแม่เสร็จต้องมีน้ำเปล่าล้างปาก ซึ่งการให้กินน้ำตามไปน้ำนมจะเจือจาง ลูกจะได้รับสารอาหารที่ควรได้รับไม่เต็มที่ ดังนั้นเราจึงยืนหยัดในความเป็นแม่ว่าเราจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วน 6 เดือนโดยไม่ป้อนน้ำ แต่ปัจจุบันความยากอยู่ที่แม่หลายคนต้องทำงานและเลี้ยงลูกไปด้วย ดังนั้นแม่ยุคใหม่จึงต้องมุ่งมั่นตั้งใจ ปั้มนมให้เป็นเวลา มีอุปกรณ์เก็บน้ำนม ซึ่งสิ่งที่จะกระตุ้นตัวของเราเองได้ดีที่สุดก็คือลูก ให้หอมลูกก่อนที่จะปั๊มนม แล้วน้ำนมจะออกมาเยอะมาก เพราะตัวของแม่เองจะมีกำลังใจว่าเรากำลังจะให้สิ่งดีๆ กับลูก เพราะไม่มีนมประเภทไหนที่จะดีเทียบเท่านมแม่ได้”
ข้อมูลด้านวิชาการระบุว่าในนมแม่นั้นมีน้ำอยู่มากถึง ร้อยละ 80-88 ส่วนประกอบอื่นๆ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่สำคัญและเหมาะสมที่สุดสำหรับเด็กทารกในช่วง 6 เดือนแรก เนื่องจากการทำงานของไตและการย่อยอาหารของลำไส้ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ การให้น้ำเสริมจะไปแย่งพื้นที่ในกระเพาะอาหาร ทำให้เด็กไม่ได้รับสารอาหารและพลังงานที่เพียงพอ ดังนั้นแค่นมแม่อย่างเดียวก็มีน้ำและสารอาหารที่เพียงพอสำหรับลูกแล้ว
น้ำนมแม่ยังเปรียบเสมือน “วัคซีนหยดแรก” ของชีวิต เพราะมีทั้งสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต มีภูมิคุ้มกันโรคจำนวนมากที่ส่งผ่านจากแม่ไปสู่ลูก และยังมีสารที่ไปเคลือบลิ้นของลูกช่วยป้องกันเชื้อรา การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังช่วยเสริมสร้างการพัฒนาสมอง เด็กที่กินนมแม่จะมีระดับสติปัญญาหรือ IQ ที่สูงกว่าเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ 3 ถึง 5 จุด ดังนั้นการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จึงเป็นการลงทุนด้านสุขภาพที่สามารถสร้างศักยภาพให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตได้
“บุ๋มขอเชิญชวนคุณแม่ทุกคนว่า เราสามารถเตรียมตัวตั้งแต่ตั้งท้อง โดยการคุยกับคนในครอบครัวว่าเราตั้งใจที่จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน แล้วดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี หลังคลอดอาจมีการพักผ่อนน้อย เหนื่อย แต่ให้มองตาลูกแล้วจะรู้ว่าเรากำลังทำสิ่งที่พิเศษที่สุดให้กับเด็กคนนี้ ตัวบุ๋มเองหลังคลอดก็ทำงานเต็มที่แต่ก็ยังสามารถเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้ จึงขอเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่ทุกคน บุ๋มทำได้คุณทำได้ นมแม่ล้วน 6 เดือน No Water” บุ๋ม-ปนัดดา กล่าวย้ำ
สำหรับแม่ที่กำลังตั้งครรภ์-หลังคลอด สามารถศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพื่อเตรียมตัวอย่างถูกต้องได้ที่ www.thaibf.com หรือที่ Facebookเพจ : Thaibf และ นมแม่ หรือดาวน์โหลด Application : Everyday Doctor ของกรมอนามัยที่เปิดคลินิกนมแม่ออนไลน์ เพื่อให้คำปรึกษาแม่ที่มีปัญหาในการให้นมแม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.