วันที่ 31 ส.ค. 2565 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เข้ารายงานตนเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังมี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรค ปชป. ยื่นหนังสือลาออก ทำให้ต้องเลื่อนลำดับมัลลิกา  ขึ้นมาทำหน้าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อแทน

มัลลิกา เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ของการเป็นสมาชิกรัฐสภาก็จะได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่และดีที่สุดโดยนำเอาประสบการณ์จากการเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และก่อนหน้านั้นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสาระสนเทศและการสื่อสารปี2553 รวมทั้งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมรวมปี 2551-52 รวม 3 สมัยในบทบาทของผู้บริหารระดับต้นของประเทศก็จะรู้วิธีปฏิบัติการบริหารรัฐกิจเพื่อนำเอาปัญหาที่สมาชิกสภาได้รับจากพี่น้องประชาชนมาสู่การแก้ไขให้สัมฤทธิ์ผลเร็วที่สุดและในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาในหน้าที่ในการช่วยงานจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์นั้นก็ชัดเจนว่าหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ได้สร้างคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติเป็นอย่างมากนโยบายสัมฤทธิ์ผลทุกนโยบายโดยเฉพาะประกันรายได้เกษตรกร

มัลลิกา กล่าวว่า ช่วงเวลาของสมาชิกสภาที่เหลืออยู่ไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็ตามไม่ได้ขึ้นอยู่กับตรงนั้นแต่ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพและศักยภาพของการทำงานดังนั้นประสบการณ์ของตนนั้นจะนำมาบูรณาการเพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนให้มากที่สุดให้ได้อย่างที่ประชาชนคาดหวัง

ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลมาเรียกร้องจะขอกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์คืนนั้นจะทำให้เป็นประเด็นปัญหาหรือไม่ นางมัลลิกา กล่าวว่า สมาชิกสภามีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นหรือสะท้อนความต้องการหรือปัญหาแต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้อหารือที่ตกผลึกร่วมกัน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เราก็มีหลักการเพราะ 3 ข้อที่หัวหน้าพรรคนำมาร่วมรัฐบาลประสบความสำเร็จทุกข้อโดยเฉพาะหนึ่งในนั้นคือโครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ทำสำเร็จมา 3 ปีเป็นที่ชื่นชมของเกษตรกรเป็นอย่างมากและสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากผดุงรักษาเศรษฐกิจในภาวะวิกฤตแต่ละช่วงของประเทศมาโดยตลอดทุกคนก็รู้เห็น 

"และชัดเจนว่าโครงการประกันรายได้เกษตรกรกระทรวงหลักที่สำคัญคือกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงจากนี้เนื่องจากเป็นคำมั่นสัญญาที่มีต่อประชาชนซึ่งเชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหาระหว่างกัน เนื่องจากทุกพรรคการเมืองโดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาลเราต่างก็คำนึงถึงประชาชนเป็นหลักด้วยกันอยู่แล้ว" มัลลิกา กล่าว