ไม่พบผลการค้นหา
'นคร' เย้ย 'เฉลิมชัย' ได้แค่ฝันค้าง ที่ประกาศดัน 'จุรินทร์' เป็นนายกฯ คนต่อไป จวกแค่สัญญาประชาคมที่จะไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจยังทำไม่ได้

นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการจัดสัมมนา ส.ส.และกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์เมื่อวันที่ 29 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศว่าพรรคจะขับเคลื่อนตามอุดมการณ์ของพรรค ไปสู่ความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาประชาชน หลังได้รับการจัดสรรรัฐมนตรีตามกระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

พร้อมกับระบุว่า หากรัฐมนตรีของพรรค ปชป. 7 คน บริหารงานในกระทรวงได้อย่างแท้จริงก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ควรจะรับรู้ไว้ด้วยว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ว่าที่รองนายกฝ่ายเศรษฐกิจ ไม่แฮปปี้ที่รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจมาจากพรรค ปชป. และพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากไม่ได้เป็นพรรคพวกหรือลูกน้องของตัวเอง

ขณะเดียวกัน นายจุรินทร์ ก็คงจะเข้าใจว่า ขณะนี้เกิดความระส่ำระสายในพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ อันจะส่งผลให้การทำงานของรัฐมนตรี และรัฐบาลมีปัญหา  

"นโยบายของพรรคปชป.ที่เคยหาเสียงไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะได้รับการยอมรับจากพลเอกประยุทธ์ และส.ว.หรือไม่ หรือปชป.ไม่ถือเป็นสาระสำคัญ สักแต่อ้างพอเป็นพิธี ให้ดูดี แต่ไม่เคยจริงจัง เหมือนกับที่เคยบอกว่า ไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ให้สืบทอดอำนาจ แต่สุดท้าย กลับมาสนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ สืบทอดอำนาจ ที่เห็นอยู่" นายนคร กล่าว

นายนคร กล่าวถึงคำประกาศของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคปชป. ที่ว่า มีความฝันจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อให้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายกฯ คนต่อไป ตนได้ฟังแล้วก็รู้สึกทึ่งมากก็ขอเป็นกำลังใจให้นะ แต่อย่าลืมว่าภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 และสภาพการเมืองที่ปชป.เข้าไปร่วมกับพลเอกประยุทธ์ที่กำลังสืบทอดอำนาจเผด็จการคสช.นั้นปชป.จะทำอะไรได้

อีกทั้ง นายเฉลิมชัยจะรู้ไหมว่าครม.ประยุทธ์ จะอยู่ไปถึง 6 เดือนหรือเปล่า กล้าเดิมพันกันไหมว่า ถ้าปชป.ได้ ส.ส.ต่ำกว่า 53 เสียง หัวหน้าพรรคจะลาออกเหมือนกับที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเคยประกาศมาแล้ว ลำพังแค่จะพาพรรคให้รอดยังลำบาก ฝันไกลไปหรือเปล่าถึงอนาคตที่จะให้หัวหน้าพรรค เป็นนายกฯ เลย 

"เอาแค่จะแก้สัญญาประชาคมที่เคยให้ไว้ว่าท่านจะไม่สนับสนุนให้พลเอกประยุทธ์ สืบทอดอำนาจที่ให้ไว้ต่อประชาชน พวกท่านยังไม่ทำตามที่สัญญาไว้เลย" นายนคร กล่าว

ลดาวัลลิ์.jpg

"เพื่อไทย" ย้อน "ประยุทธ์" ส.ส. ทำหน้าที่ตาม รธน.60 ที่เครือข่าย คสช. เขียน

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่นครโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น บอกว่า "รู้สึกไม่สบายใจที่เห็นการประชุมสภาฯ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ขออย่าจ้องแต่จะล้มรัฐบาล" ว่า จะสบายใจหรือไม่สบายใจก็เป็นเรื่องที่พลเอกประยุทธ์ต้องเผชิญ สภาผู้แทนราษฎรวันนี้เกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมาภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่เครือข่ายคสช.เขียนล็อคเอาไว้ เพื่อปูทางให้พลเอกประยุทธ์สืบทอดอำนาจคสช.ต่อ โดยคิดว่าผลการเลือกตั้งพรรคพวกของตัวเองจะชนะ และสนับสนุนให้ตนเองเป็นผู้นำรัฐบาลได้เบ็ดเสร็จ 

ทั้งที่ ความจริงแล้วเบ็ดเสร็จเฉพาะ ส.ว.สรรหา 250 คน แต่ส.ส.มุ้งเล็กมุ้งน้อยในพรรค พปชร. และ ส.ส.ฝ่ายค้าน กลายมาเป็นก้างตำคอตัวเอง ทำให้การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์จะไม่ราบรื่นเหมือนที่เคยมีแต่ สนช. หากไม่มีตัวช่วยจากองค์กรอื่น พลเอกประยุทธ์คงเป็นนายกฯ ไม่ได้ 

โดยหลักแล้ว หลังจากพลเอกประยุทธ์ทำรัฐประหาร แล้วใช้เวลา 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี จัดทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ปฏิรูปประเทศให้ แล้วถอยออกมาไม่ยุ่งเกี่ยวก็จะดูสง่างาม บ้านเมืองก็จะเรียบร้อย ตรงกันข้าม พลเอกประยุทธ์และพวกตั้งใจอยู่นาน นี่ก็เกิน5 ปีแล้ว เพื่อตัวเองจะได้เป็นผู้นำต่อไป เป็นเรื่องสมควรหรือไม่

นางลดาวัลลิ์กล่าวต่อไปว่า พลเอกประยุทธ์ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า "ขอให้อย่าจ้องแต่จะล้มรัฐบาล หากเรื่องไหนทำให้เกิดความยั่งยืนของประเทศก็ควรจะยกมือพร้อมกันทั้งสภาฯ" เรื่องนี้ก็อยากจะบอกว่า รัฐบาลจะล้ม หรือจะตั้งอยู่ได้ ก็อยู่ที่การกระทำของพลเอกประยุทธ์และพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก รวมทั้งประชาชนให้การยอมรับและอยากให้รัฐบาลอยู่ต่อไปอีกเพื่อสืบทอดอำนาจหรือไม่ 

การจะให้พรรคฝ่ายค้านยกมือสนับสนุนรัฐบาลก็อยู่ที่การกระทำของ ครม.และ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเป็นสำคัญว่าทำดี ทำถูกต้องหรือไม่ ฝ่ายค้านต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ยอมรับได้ไหม พรรคฝ่ายค้านเสนอญัตติด่วนให้สภาฯ ตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาหาข้อเท็จจริงว่าการสรรหาส.ว.ดำเนินไปอย่างไร พลเอกประยุทธ์ ยอมรับให้ตั้งไหม หรือจะขัดขวางไม่ให้สภาฯ ทำหน้าที่ควบคุมตรวจสอบ 

"นี่แค่เพียงโหมโรงเท่านั้น พลเอกประยุทธ์ก็แสดงทีท่าอ่อนใจเสียแล้ว ฉากต่อไปรับรองเข้มข้นกว่านี้ พลเอกประยุทธ์จะต้องมาเข้าร่วมประชุมสภาฯ มาฟังเสียงและเห็นหน้า ส.ส. เวลาอภิปรายในที่ประชุมสภาฯ ถึงตอนนั้น พลเอกประยุทธ์คงประจักษ์ว่า การเป็นนายกฯ สมัยที่ 2 อาจจะยากกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขา ก็ได้" นางลดาวัลลิ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :