ไม่พบผลการค้นหา
'กนก' ศิษย์เก่า ปชป. เข้าซบ 'ชาติไทยพัฒนา' ชี้นโยบายดีมีเยอะ แต่ยังขาดนักปฏิบัติ ชม 'วราวุธ' จริงใจ ทำงานเอาเป็นเอาตาย มุ่งแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

วันที่ 19 ธ.ค. ที่ทำการพรรคชาติไทยพัฒนา กนก วงษ์ตระหง่าน อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าเปิดตัวเป็นสมาชิกใหม่ของพรรคชาติไทยพัฒนา หลังได้ลาออกจาก ส.ส. เมื่อ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา รวมถึงแกนนำพรรค ให้การต้อนรับ

โดย วราวุธ กล่าวแสดงความยินดีกับสมาชิกใหม่ พร้อมระบุว่า กนก เป็นบุคลากรและมันสมองที่สำคัญของพรรค มีความรู้และประสบการณ์ทำงานในหลายด้าน ที่ผ่านมาพรรคชาติไทยพัฒนาเป็นนักปฏิบัติ วันนี้จะได้รับการเติมเต็ม ด้วยการนำนักคิด นักทฤษฎี เข้ามาร่วมเป็นสมาชิก

ด้าน กนก เผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพูดคุยกับ นิกร จำนง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ที่สภาฯ หลายครั้ง และได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับพรรคชาติไทยพัฒนา พบว่า พรรคนี้มีตัวตนที่สำคัญซึ่งทำให้ตนรู้สึกดีด้วย ตั้งแต่สมัย บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนสยกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรค จนกระทั่งสมัยของ นายวราวุธ หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน เห็นว่าพรรคให้ความสำคัญกับการปฏิบัติให้เกิดผลสำเร็จ 

"ทุกวันนี้ ประเทศไทยของเราไม่ได้ขาดนโยบายที่ดี แต่ยังขาดการปฏิบัตินโยบายให้เกิดผลสำเร็จ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้"

กนก กล่าวต่อไปว่า การคิดแก้ปัญหาของพรรคชาติไทยพัฒนา เริ่มต้นจากความเป็นจริง ขณะที่หลายพรรคการเมืองเริ่มต้นจากความฝัน ความฝันอาจจะสำคัญแต่ความเป็นจริงสำคัญกว่า ว่าจะทำอย่างไรให้ความเป็นจริงนี้ดีขึ้น โดยเฉพาะดีขึ้นสำหรับประชาชนและประเทศชาติ

ในการทำงานทางการเมือง พรรคชาติไทยพัฒนาเอาความรักชาติเป็นฐานของความคิดและการทำงานที่สำคัญ ทุกอย่างที่ทำที่จึงเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน ตนเคยอ่านในหนังสือของ บรรหาร ใช้คำว่ากตัญญู คือความกตัญญูต่อแผ่นดินไทย

"พรรคชาติไทยพัฒนามีสไตล์และบุคลิกที่ไว้วางใจได้ สะท้อนถึงความจริงใจของการปฏิบัติ ว่าจะทำสิ่งที่รับปากไว้ให้ได้ ไม่ทะเลาะกับใคร ไม่เป็นศัตรูกับใคร และมีความซื่อสัตย์สุจริต"

กนก ยังย้ำว่า สภาวะของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นตัวกำหนดชะตาของโลก รวมถึงทิศทางการเมืองของประเทศไทยที่จะต้องเปลี่ยนแปลงให้ทัน การเมืองไม่ใช่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอีกต่อไป แต่คือการวางทิศทางและรากฐานสำหรับอนาคตควบคู่ไปด้วย

เมื่อถามว่า การย้ายพรรคนี้สะท้อนว่าทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ต่อไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายกนก กล่าวว่า ต้องขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่มอบโอกาสให้เริ่มต้นทำงานทางการเมือง แต่ทุกวันนี้สถานการณ์ของโลกได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ต้องเร่งทำงานเพื่อรับมือสิ่งเหล่านี้ 

โดยตนเห็นว่า พรรคชาติไทยพัฒนาได้เริ่มต้นทำสิ่งนี้มาโดยตลอด สะท้อนผ่านการทำงานของ วราวุธ ที่ต้องใช้คำว่า ทำอย่างเอาเป็นเอาตาย เงียบๆแต่หนักแน่น ถ้าตนมาอยู่ที่นี่ ก็อาจจะได้ทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่

"ปัจจัยที่ทำให้ผมออกจากพรรคประชาธิปัตย์มีไม่มาก แต่ปัจจัยดึงที่ทำให้ผมเข้ามาพรรคชาติไทยพัฒนา มีอยู่มาก"กนก กล่าว