ศาลรัฐธรรมนูญเปรูได้คืนสถานะการขออภัยโทษของฟูจิโมริเป็นเวลา 6 ปี แก่อดีตประธานาธิบดีเปรูในวัย 85 ปี ทั้งนี้ ฟูจิโมริมีทั้งผู้ที่สนับสนุนและต่อต้านเขาจำนวนมาก โดยก่อนหน้านี้ ฟูจิโมริต้องโทษจำคุกนาน 25 ปี ในขณะที่เขาได้รับการให้อภัยโทษ สืบเนื่องจากฐานความผิดการคอร์รัปชัน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรู
ฟูจิโมริถูกบันทึกภาพได้ขณะเขากำลังใส่หน้ากากอนามัย พร้อมกันกับการได้รับความช่วยเหลือขนาบข้างขณะเดินทางออกจากเรือนจำด้วยรถยนต์โดยลูกสองคนของเขาอย่าง เคนจิ ฟูจิโมริ และ เคอิโกะ ฟูจิโมริ ซึ่งได้แพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีเปรูครั้งล่าสุดไปด้วยคะแนนฉิวเฉียด
สำหรับผู้สนับสนุนของเขา อัลแบร์โต ฟูจิโมริ นับเป็นประธานาธิบดีที่ช่วยเปรูหลุดออกจากวิกฤตของประเทศ 2 ประการ ได้แก่ การก่อการร้ายและการล่มสลายทางเศรษฐกิจ แต่สำหรับฝ่ายต่อต้าน อดีตประธานาธิบดีเปรูผู้นี้ ถือว่าเป็นเผด็จการที่มีความเบ็ดเสร็จโหดเหี้ยม และอยู่เหนือสถาบันประชาธิปไตยของประเทศ เพียงเพื่อพยายามรักษาอำนาจของตัวเองเอาไว้
ฟูจิโมริเป็นบุตรชายของผู้อพยพชาวญี่ปุ่นในเปรู โดยเขาเคยดำรงตำแหน่งอดีตประธานาธิบดีเปรูระหว่างปี 2533 ถึง 2543 ภายใต้การปกครองด้วยความเป็นอำนาจนิยมรุนแรง ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่พลิกผันหลายครั้ง ทั้งนี้ รัฐบาลเผด็จการของฟูจิโมริเคยสั่งปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบอย่างรุนแรง 2 ครั้งในระหว่างที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 69,000 คน
หลายปีหลังจากการก้าวลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีเปรูของฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีเปรูผู้นี้ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานรับสินบน และใช้อำนาจโดยมิชอบ ก่อนจะถูกตัดสินจำคุกนาน 25 ปี ฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเปรู ซึ่งรวมถึงการสั่งการให้มีการสังหารหมู่หลายครั้ง
เมื่อฟูจิโมริถูกตัดสินให้จำคุกในปี 2552 เมื่ออายุ 70 ปี ชาวเปรูส่วนใหญ่สันนิษฐานว่าอดีตผู้นำคนนี้จะใช้เวลาที่เหลือในเรือนจำตลอดชีวิต อย่างไรก็ดี ในเดือน ธ.ค. 2560 ฟูจิโมริถูกนำตัวออกจากเรือนจำเพื่อส่งเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากปัญหาสุขภาพ จากภาวะความดันโลหิตต่ำ และจังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
ในเดือนเดียวกันนั้นเอง ฟูจิโมริได้รับการอภัยโทษจาก เปโดร ปาโบล คุชซินสกี ประธานาธิบดีเปรูในขณะนั้น หลังจากที่แพทย์กล่าวว่าอาการป่วยของฟูจิโมริไม่สามารถรักษาให้หายได้ พร้อมกันนี้ แพทย์ยังได้ลงความเห็นว่าการจองจำฟูจิโมริในเรือนจำนั้นส่งผลให้เกิด "ความเสี่ยงร้ายแรงต่อชีวิตของเขา"
ที่มา: