ไม่พบผลการค้นหา
นายกรัฐมนตรี ปลื้ม 8 เดือนไทยส่งออกสินค้าไปซาอุดีอาระเบีย กว่า 4.3 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 15.9% ถือเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เน้นกลุ่มรถยนต์ ผลิตภัณฑ์ไม้-ยาง อาหารทะเลแปรรูป

อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามตรวจสอบความคืบหน้าเกี่ยวกับตัวเลขทางการค้าระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบีย เพื่อสนับสนุนการค้าระหว่างกันส่งผลดีแก่ประชาชนไทยให้มากที่สุด

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังซาอุดีอาระเบีย ในเดือนมกราคม – สิงหาคม 2565 จำนวน 43,114 ล้านบาท ขยายตัวถึง 15.9% ถือเป็นความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลพร้อมที่จะขยายตลาดสินค้าอื่น ๆ ต่อไปในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ ตัวอย่างสินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปซาอุดีอาระเบีย อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป และเครื่องจักรและส่วนประกอบของ เครื่องจักร รวมถึงอาหารสัตว์ เป็นต้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ยังได้รายงานความคืบหน้าใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การทำสัญญาซื้อขายสินค้าไทยไปซาอุดีอาระเบียได้สำเร็จ รวมมูลค่ากว่า 3,500 ล้านบาท 2.แผนจัดตั้งสภาธุรกิจไทย – ซาอุดีอาระเบีย ตั้งเป้าหมายทำมูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 10,000 ล้านบาทภายใน 1 ปี รวมทั้งจะจัดตั้งคลินิกส่งเสริมการส่งออก (Export Clinic) เพื่อให้คำปรึกษา กฎระเบียบ มาตรการต่าง ๆ ตลอดจนให้บริการระบบการขนส่ง และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย โดยจะนำสินค้าไทยไปร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญที่ซาอุดีอาระเบีย 

3. การจัด Webinar ส่งเสริมการค้าการลงทุนในสาขาสำคัญ เช่น ปิโตรเคมี การก่อสร้าง เหล็ก อะลูมิเนียม อาหาร การเกษตร ยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและส่งเสริมการส่งออก โดยเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมฯ และกระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบีย และ 4. เร่งรัดการหารือ FTA ไทยกับคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (Gulf Cooperation Council: GCC) 6 ประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย – ซาอุดีอาระเบีย (Joint Trade Committee: JTC) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซาอุดีอาระเบียให้ความเห็นชอบแล้ว คาดว่าจะจัดตั้งให้เป็นเวทีเจรจาการค้าระหว่าง 2 ประเทศต่อไป

“นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสานต่อความร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางด้านการค้าการลงทุนของทั้งสองฝ่าย เชื่อมั่นว่าจากการดำเนินการที่ผ่านมา จะสร้างมูลค่าทางการตลาดระหว่างกันได้อีกมากในอนาคต ซึ่งซาอุดีอาระเบียเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และกำลังเติบโต รวมทั้งเป็นประตูสู่ประเทศตะวันออกกลางและสามารถต่อยอดไปยังภูมิภาคอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นโอกาสในการนำเสนอสินค้าไทยในประเภทต่าง ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้อีกด้วย” อนุชา กล่าว