มูลนิธิ 14 ตุลา จัดงานรำลึกและปาฐกถา 14 ตุลา ประจำปี 2564 โดยช่วงเช้ามีการร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 14 รูป บริเวณด้านหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และพิธีกรรม 3 ศาสนา 'พุทธ อิสลาม คริสต์'
จากนั้นมีตัวแทนจากพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง ญาติของผู้เสียชีวิต ทยอยเดินทางมาวางพวงมาลารำลึกตั้งแต่เช้า อาทิ พรรณิการ์ วานิช ตัวแทนกลุ่มก้าวหน้า ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.ตัวแทนพรรคก้าวไกล ราเมศ รัตนะเชวง ตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ อนุสรณ์เอี่ยมสะอาด ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย ตัวแทน ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
อนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสํานักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี วางพวงมาลาและกล่าวสดุดี โดยระบุ ว่า เหตุการณ์ 14 ตุลาคม มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประวัติศาสตร์การเมืองไทย เป็นการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย ที่เป็นระบอบการปกครองที่ประชาชนมีอำนาจสูงสุด ในนามนายกรัฐมนตรีขอไว้อาลัยขอสรรเสริญอุดมการณ์อันมั่นคงและวีรกรรมในเหตุการณ์วันนั้นย่อมเป็นภาพที่ชัดเจนอยู่ในจิตใจของประชาชน พร้อมขอให้ประชาชนร่วมกันสร้างสรรค์ประชาธิปไตยที่ดีงามต่อไป
ขณะที่ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ในนามคนเดือนตุลา ได้สดุดีวีรชนเดือนตุลาคมที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสังคมที่ดีกว่า ทั้งในเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกัน โดยช่วง 14 ตุลา 16 นักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชนต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ตอน 6 ตุลา 2516 ต่อสู้เพื่อความเสมอภาคและความเท่าเทียม ขณะที่ปัจจุบันยังมีประชาชนและคนรุ่นใหม่ที่ ต้องกลับมาต่อสู้ใหม่ เพื่อสิทธิเสรีภาพเสมอภาคและภราดรภาพ
ดังนั้น วันนี้นอกจากรำลึกถึง 48 ปี 14 ตุลาแล้ว ยังต้องการเรียกร้องเป็นผู้มีอำนาจให้หยุดทำร้ายประชาชนและเรียกร้องสิทธิการประกันตัวนักโทษการเมืองระหว่างพิจารณาคดีด้วย ก่อนจบการรำลึกขอให้ผู้ร่วมงานยืนไว้อาลัยแด่วีรชนร่วมกัน 1 นาที และให้ผู้ร่วมงานเปล่งคำว่า "ปล่อยเพื่อนเรา" พร้อมกันด้วย
ขณะที่ตัวแทนจากองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หรือ อมธ. กล่าวรำลึกตอนหนึ่งว่า แม้เผด็จการในวันนั้น คือ 48 ปีที่แล้วถูกโค่นล้มลงไปแล้ว แต่ยังทิ้งซากไว้ วันนี้เผด็จการได้เติบโตกดขี่ข่มเหงประชาชน ใช้ความรุนแรงโดยไม่ชอบต่อนักเรียนนิสิตนักศึกษาและประชาชน ที่ออกมาแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองและต่อต้านเผด็จการการกระทำของรัฐ ในการละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพที่ประชาชนในระบอบประชาธิปไตยจึงขอประณามการกระทำของผู้มีอำนาจ ต่อนิสิตนักศึกษาประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยอย่างแท้จริงในรัฐไทย พร้อมเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจพิจารณาการกระทำของตัวเอง และเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมืองทุกคนที่ถูกจับกุมด้วยความไม่ชอบธรรมด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กลุ่มทะลุฟ้า ได้นำป้ายผ้าที่เขียนข้อความ อาทิ “ที่ใดมีเผด็จการ ที่นั่นย่อมมีการต่อสู้” “แค่ต้องการประชาธิปไตย เป็นขบถหรือ?” มาผูกไว้บริเวณงาน แต่ในภายหลัง ประสาร มฤคพิทักษ์ กรรมการมูลนิธิ 14 ตุลา อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตผู้นำนักศึกษารุ่น 14 ตุลา ได้เข้าไปพูดคุยขอให้ปลดป้ายลงเนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตก่อน