ไม่พบผลการค้นหา
‘ภูมิใจไทย’ ทำบุญครบรอบ 15 ปี วันก่อตั้งพรรค พร้อมถือฤกษ์วันดีเปิดตัวผู้สมัครทั่วประเทศ 400 เขต ด้าน ‘อนุทิน’ ลั่นไม่ยกเก้าอี้นายกฯ ให้ใคร หากได้เสียงสูงสุด โวสภาฯ เข้มแข็งหาก‘ภูมิใจไทย’ เป็นแกนนำรัฐบาล

วันที่ 6 เม.ย. ที่ทำการพรรภูมิใจไทย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า หลังกรรมการบริหารพรรคและแกนนำคนสำคัญ รวมถึงผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยทยอยเดินทางมาร่วมทำบุญวันคล้ายวันเกิด ซึ่งในปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 15 ที่พรรคภูมิใจไทยก่อตั้ง โดยมีการจัดพิธีทางศาสนาทั้งพิธีสงฆ์ และพิธีทางศาสนาอิสลาม เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล 

ขณะที่ในเวลาประมาณ 08.15 น. สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ และชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เดินทางเข้ามาอวยพรวันเกิดพรรคภูมิใจไทย เนื่องในโอกาสเข้าสู่ปีที่ 15 

อนุทิน ภูมิใจไทย.jpg

โดยภายหลังขึ้นไปมอบดอกไม้ให้แก่ผู้บริหารพรรค ชัยวุฒิ ให้สัมภาษณ์ว่า ใจเรารักกันอยู่แล้วไม่ได้มีความขัดแย้ง พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ขัดแย้งกับใคร เพราะเราก้าวข้ามความขัดแย้ง ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยปิดประตูการจับมือร่วมรัฐบาลนั้น ก็เป็นเรื่องของเขา พรรคเพื่อไทยคงมีนโยบายแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แต่พรรคพลังประชารัฐรัก และสามัคคีกัน เขามองกันคนละมุมก็แล้วแต่ประชาชนจะเลือก 

หลังทำบุญเสร็จสิ้น อนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำทีมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 400 คนทั้งประเทศ และส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยมีแกนนำพรรคในแต่ละภาคเป็นผู้รับธงในการสู้ศึกเลือกตั้ง ได้แก่ ทรงศักดิ์ ทองศรี ผู้รับผิดชอบภาคอีสาน, ชาดา ไทยเศรษฐ์ ผู้รับผิดชอบภาคเหนือ, เกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร ผู้รับผิดชอบภาคกลาง, พิพัฒน์ รัชกิจประการ ผู้รับผิดชอบภาคใต้ และพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ผู้รับผิดชอบพื้นที่ กทม. 

อนุทิน ภูมิใจไทย.jpg

อนุทิน กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันสถาปนาพรรคภูมิใจไทยซึ่งตรงกับวันจักรี ซึ่งเป็นวันที่เราละลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ จึงถือว่าวันนี้เป็นวันที่มีความหมายต่อพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกทุกคน และพรรคภูมิใจไทยยึดมั่นในการปกป้องเทิดทูนสถาบันฯ ไว้ชั่วชีวิต และเราจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป ตราบใดที่เรายังเป็นพรรคภูมิใจไทย เราจะดำรงอยู่เพื่อทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนคนไทย และประเทศไทย สมดังสโลแกนของพรรคที่มีว่า “พูดแล้วทำ”


ไม่ยกเก้าอี้นายกฯ ให้ใคร หากได้เสียงสูงสุด 

อนุทิน กล่าวอีกว่า ขอให้พวกเราหลังจากวันนี้เป็นต้นไป เมื่อกลับภูมิลำเนาแล้ว เราจะต้องไปพบปะกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ไปนำเสนอนโยบายของพรรคภูมิใจไทย และสร้างความเข้าใจต่อพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเพื่อให้ได้เห็นประโยชน์จากการลงคะแนนให้กับพรรคภูมิใจไทย ทั้งนี้ พรรคภูมิใจไทยถือว่าเป็นพรรคที่พิเศษ เพราะเป็นพรรคที่มีระเบียบวินัย มีพวกพ้อง เป็นเหมือนครอบครัว โดยเราปฏิบัติเช่นนี้ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมาในรัฐสภา และสิ่งที่ประจักษ์ชัดเมื่อพูดถึงบทบาทของพรรคภูมิใจไทยในสภาผู้แทนราษฎรคือ ความสมัครสมานสามัคคีเป็นปึกแผ่นในทิศทางเดียวกัน เพราะพี่น้องทุกคนแม้จะมีเอกสิทธิ์ของความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ทุกคนในสังกัดพรรคภูมิใจไทยเชื่อมั่นว่า พรรคภูมิใจไทยตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่จึงไม่เคยแตกแถว

นอกจากนี้ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้จะมีรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยหลายท่านที่เคยถูกอภิปราย แต่นั่นถือเป็นเกมการเมือง เพราะพรรคภูมิใจไทยได้คุมกระทรวงสำคัญ แต่ทุกครั้งรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทยก็สามารถชี้แจงข้อกังวลของบรรดาฝ่ายค้านได้เป็นอย่างดี และยังได้รับคะแนนไว้วางใจสูงที่สุด และที่สำคัญพรรคภูมิใจไทยยกมือไว้วางใจให้สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลทุกครั้ง แต่พรรคภูมิใจไทยได้รับความไว้วางใจจากพรรครัฐบาลไม่ครบ 

“พรรคของเราไม่มียกตำแหน่งให้ใคร หากได้รับคะแนนเสียงมากที่สุด เราจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็คือคนที่ได้รับการเสนอชื่อนั่นก็คือ อนุทิน ชาญวีรกูล” อนุทิน ระบุ 

อนุทิน ภูมิใจไทย.jpg

อนุทิน กล่าวอีกว่า ในวันที่ไปจับเบอร์ได้ไปหาอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่า มีความเครียดไม่อยากได้เบอร์ 2 หลัก ขอให้จับได้เบอร์หลักเดียว เบอร์อะไรก็ได้ อาจารย์คนนั้นบอกว่า อยากได้เบอร์อะไรจึงตอบไปว่า อยากได้เบอร์ 1 หากเบอร์ 1 ไม่ได้เบอร์อะไรก็ได้ขอให้เป็นเลขหลักเดียว อาจารย์จึงตอบกลับว่า "มึงต้องได้เบอร์ 7 เท่านั้น" สำหรับอาจารย์คนดังกล่าว ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร เดี๋ยวจะมีคนอื่นให้ไปช่วยพรรคอื่นอีก 

ซึ่งอาจารย์ยังบอกอีกว่า วันที่ 14 พ.ค. หลัง 4-5 ทุ่มท่านบอกว่าเห็นเป็นเลข 3 หลัก แต่ตนไม่ขอบอกว่าเลข 3 หลักนั้นเป็นเลขเท่าไหร่เดี๋ยวพอพวกเรารู้ว่าก็ได้เป็นส.ส.แล้ว จะไม่ยอมลงพื้นที่ ตนเชื่อว่าเลข 3 หลักนั้นจะออกมาเป๊ะทุกประการ เพราะเลข 3 หลักที่อาจารย์บอกตน ตรงกับ3 หลักที่ตนคำนวณเอาไว้

อนุทิน กล่าวว่า วันนี้มีคนบอกว่า วัคซีนโควิดไม่สำคัญเท่าโรคตากับโรคปอด พวกผมฉีดวัคซีนให้พวกท่านแล้ว กันโรคตาแหก กัยโรคปอดแหก สมาชิกพรรคภูมิใจไทยต้องไม่ปอดแหกและตาแหก ต้องเป็นพรรคที่ตาโตตาใส และมีหัวใจที่มั่นคงแข็งแกร่ง ต่อสู้จนได้รับชัยชนะทุกคน เบอร์ 7 เขาบอกว่าสู้ตรงนี้สู้ที่นี่สู้จนคนไทยชนะไปด้วยกัน เราต้องสู้ให้ประชาชนได้รับชัยชนะทุกสิ่ง นี่คือภารกิจของสมาชิกพรรคทุกคน 

"4 ปีที่ผ่านมาท่านคิดว่ามีพรรคใดเติบโตเท่าพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เราเข้ามา 50 เราคิดว่าเราจะเติบโตครั้งนี้ในเลข 3 หลักเท่ากับว่าเราเติบโตเป็นเท่าตัว ผู้ที่จะทำให้สิ่งเหล่านั้นให้เกิดขึ้นได้นอกจากพวกเราแล้วก็คือประชาชน เราต้องไปหาประชาชนให้ประชาชนมั่นใจในตัวเรา และพรรค" อนุทิน ระบุ 

อนุทิน ภูมิใจไทย

อนุทิน กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ได้นายกรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. จะทำให้สภาผู้แทนฯ ชุดใหม่ไม่เหมือนชุดที่แล้ว เพราะจะเข้าใจพี่น้องสมาชิกผู้แทนราษฎร และจะหวงแหนสภาฯ หวงแหนความรู้สึกของพี่น้องประชาชน ดังนั้นหลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค. หากพรรคภูมิใจไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล สภาจะเข้มแข็ง ผลงานต่างๆ จะออกมา กฏหมายต่างๆ จะออกมาทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนจะดีขึ้น และเศรษฐกิจของประเทศไทยจะดีขึ้น สุขภาพของเด็กไทยจะดีขึ้น อีกทั้งพรรคภูมิใจไทยจะแข็งแกร่งสุดตั้งแต่ตั้งพรรคมา 

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ได้มีนักการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ ได้แก่ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค และนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย มามอบดอกไม้ให้แสดงความยินดีแก่พรรคภูมิใจไทย รวมถึงปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่มาร่วมงานเพื่อให้กำลังใจ ‘สีหเดช ไกรคุปต์’ พี่ชายที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี พรรคภูมิใจไทย