วันที่ 22 พ.ย. พรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรค พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. และ ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย ร่วมกันเปิดตัวผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. กทม. ของพรรคเพื่อไทย

นพ.ชลน่าน ระบุว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ กทม. เพิ่มอีก 9 คน รวมกับที่เคยเปิดตัวไปแล้วเป็น 24 คน ซึ่งผู้สมัครฯ ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีนั้น เป็นหนึ่งใน 3 กลไกหลักที่จะช่วยขับเคลื่อนพรรคเพื่อไทย คือนโยบาย ส.ส. และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อผลักพาพรรคเพื่อไทยไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ 

ด้าน พวงเพ็ชร กล่าวว่า ทุกนโยบายกลั่นกรองมาจากปัญหาของประชาชน ความสำเร็จตั้งแต่พรรคไทยรักไทย มาจนถึงพรรคเพื่อไทย ได้ผลักดันนโยบายจนสำเร็จและเป็นรูปประธรรม ใครจะหาเสียงอย่างไรก็ได้ แต่เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย ทำได้ทุกนโยบายที่หาเสียง ต้องขอบคุณที่ไว้วางใจ ส.ก. พรรคเพื่อไทย ทั้ง 20 ราย ให้เข้าไปทำงานในสภา กทม. เป็นอีกวันที่ต้องขอฝากพี่น้องชาว กทม. และทั่วประเทศ ให้แลนด์สไดล์เพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติ

รายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย 9 เขตประกอบด้วย

1. จิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ หรือ 'ทนายบิลลี่' เขตทวีวัฒนา-หนองแขม

2. ลีลาวดี วัชรโรบล เขตราชเทวี-ดุสิต

3. เพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เขตยานนาวา-บางคอแหลม

4. ธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล เขตบางพลัด-บางกอกน้อย

5. นพ.ญาณกิตติ์ ห่วงทรัพย์ เขตจตุจักร

6. กิตติพล รวยฟูพันธ์ เขตทุ่งครุ-ราษฎร์บูรณะ

7. ณณัฎฐ์ หงษ์ชูเวช เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง

8. พิชชาภัสร์ อมาตย์วรานนท์ เขตบางขุนเทียน

9. นวธันย์ ธวัชวงศ์เดชากุล เขตคลองเตย

เมื่อถามว่า ได้มีการทาบทาม ส.ส. จากพรรคอื่นมาอยู่กับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ทางพรรคไม่ได้มีนโยบายนำตัว ส.ส.ปัจจุบันมาร่วม เราเป็นเสรีประชาธิปไตย มุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ประชาชนเป็นหลัก หากมี ส.ส.คนไหนคิดว่าสามารถมาร่วมงานกับเราได้ ก็ถือเป็นโอกาสของพรรคเรา ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับประชาชนในแต่ละพื้นที่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่เราไม่มีการโน้มน้าวชักจูง ติดต่อมาที่ตนยังไม่มี อาจติดต่อท่านอื่นที่เป็นคณะทำงานในพื้นที่

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่ในเขตสายไหม และเขตดินแดง-ห้วยขวาง จะมีโอกาสเปลี่ยนตัวเป็นผู้สมัครฯ หน้าใหม่หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังมีโอกาส อาจจะเป็นคนเดิมหรือหน้าใหม่ก็ได้ แต่พรรคเราฟังเสียงประชนชนเป็นหลัก

2 ป. แยกทางหวังสืบทอดอำนาจ

สำหรับโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะแยกทางจากพรรคพลังประชารัฐไปพรรครวมไทยสร้างชาติ นพ.ชลน่าน มองว่า การตัดสินใจอย่างนี้ เท่ากับต้องการสืบทอดอำนาจ หากอยู่พรรคเดิมอาจมีอุปสรรค ประชาชนไม่ยอมรับ จึงต้องแยกกันเพื่อความอยู่รอด โดยมุ่งหมายว่าจะนำที่นั่ง ส.ส. ของ 2 พรรคมารวมกัน 

ส่วนจะกระทบกับการแลนด์สไลด์ของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ เราคำนึงถึงคู่แข่งอยู่แล้ว แต่ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมมากที่สุด เราจึงคัดตัวผู้สมัครฯ ที่เข้าถึงพื้นที่ เข้าใจประชาชน ส่วนตัวเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนจะเลือกในเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อพาประเทศออกจากวิกฤต

"ผมเชื่อว่ากระแสของประชาชนที่ต้องการ ส.ส. มาแก้ปัญหาน่าจะเหนือกว่ากระแสอย่างอื่น จะเรียกว่ากระสุนก็คงไม่สุภาพนัก ถ้าเราทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ไม่ว่าคู่แข่งจะมารูปแบบไหน จะแยกกันอยู่ จะรวมกันอยู่ เราก็สามารถเข้าสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ของเราได้"

สำหรับกรณีที่ 30 พ.ย.นี้ ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมแถลงคำวินิจฉัยว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. แบบสูตรหาร 100 นั้น จะกระทบต่อแลนด์สไลด์เพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า จะกระทบทั้งระบบ แต่หากศาลวินิจฉัยว่า กฎหมายดังกล่าวขัดต่อรัฐธรรมนูญในสาระสำคัญ จะทำให้กฎหมายดังกล่าวตกไป และไม่มีกฎหมายใช้ในการเลือกตั้ง แต่รัฐสภายังพอมีเวลาก่อนปิดสมัยประชุมใน ก.พ. 2566 ในการเร่งจัดทำกฎหมายใหม่ ซึ่งตนหวังว่าจะทัน หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นก่อน ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีเจตนาจะสร้างอุบัติเหตุว่า ต้องการอะไร ต้องการให้มีการเลือกตั้งหรือไม่