ที่รัฐสภา วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.เเบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พรรคก้าวไกล จ.พิษณุโลก, ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เเถลงต่อสื่อมวลชน กรณีตั้งกระทู้ถามเรื่องการคุกคามสิทธิเด็กในสถานศึกษา ต่อ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่ไม่ได้มาชี้เเจงโดยอ้างติดภารกิจ ทำให้ต้องเลื่อนกระทู้ถามออกไป ว่า จากกรณีที่เด็กนักเรียนทั่วประเทศได้เเสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง เป็นเหตุให้ถูกคุกคามจากครูเเละบุคลากรในสถานศึกษา ร้อยละ 80% ทั้ง การใช้วาจา ตัดคะเเนน ข่มขู่ เเละการข่มเหงทางร่างกาย และจิตใจ

วิโรจน์ กล่าวว่า การเเสดงออกของนักเรียน นักศึกษาในวันนี้ทำโดยสงบ สันติและปราศจากอาวุธ และมีความชอบธรรมอย่างยิ่ง เป็นการแสดงออกทางการเมืองเชิงสัญลักษณ์ในสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นการชู 3 นิ้ว ผูกโบว์สีขาว ถือกระดาษเปล่าในโรงเรียน ซึ่งไม่ได้กระทำการคุกคามหรือทำให้ประชาชนคนใดเดือดร้อน มีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญเสียด้วยซ้ำ เมื่อเทียบกับการเเสดงออกทางการเมืองในปี 2556-2557 ที่ใช้ริบบิ้นลายธงชาติ ซึ่งในอดีตท่านรัฐมนตรีเองก็เคยร่วมเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่ม กปปส. 

ท่านรัฐมนตรีจะเเสดงออกตามรัฐธรรมนูญ มันก็เป็นสิทธิของท่าน หากท่านจะรื้อลิ้นชักลายธงชาติ เอาผ้าโพกหัวลายธงชาติ เอานกหวีดห้อยคอมาทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล หรือมาพบกับตนที่สภาผู้แทนราษฎรท่านก็ทำได้ ซึ่งเช่นเดียวกับที่นักเรียนผูกโบว์ขาวก็สามารถทำได้เช่นกัน มันเป็นสิทธิที่เราไม่ได้คุกคามใคร เราสามารถทำได้ การกระทำทั้ง 3 อย่างนี้ของนักเรียน ชอบด้วยรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ซึ่งท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ครู บุคลากรทางการศึกษาไม่มีสิทธิคุกคามการแสดงออกของนักเรียนที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ

"ผมขอเรียกร้องให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ให้ความสำคัญกับกรณีที่เด็กนักเรียนถูกคุกคาม จากการเเสดงออกทางการเมือง วันนี้ท่านไม่มาตอบ ท่านให้ความสำคัญต่อภารกิจอื่นมากว่าภารกิจของนักศึกษาที่โดนคุกคามเป็นล้านคน ผมกล่าวหาท่านเลยว่าท่านหนีสภา และวันนี้กลุ่มนักเรียน นักศึกษา ติดแฮชเเท็กเลิกเรียนไปกระทรวง"

"พวกเขาก็คิดว่าท่านคงไม่ได้ชอบริบบิ้นขาว ท่านคงชอบริบบิ้นลายธงชาติ และคงชอบนกหวีด โดยในวันนี้น้องๆ คงไปเป่านกหวีดเรียกร้องหน้ากระทรวงกันอย่างเเซ่ซ้อง และขอร้องให้นายณัฏฐพล ในฐานะรัฐมนตรีเร่งดูเเลในการคุกคามเด็กนักศึกษาพร้อมปฏิบัติตามมาตรการระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( สพฐ. ) อย่างเคร่งครัด" วิโรจน์ กล่าว

พร้อมเปิดรับเรื่องราวคุกคามเยาวชน

ขณะ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน เเละการมีส่วนร่วมของประชาชน กล่าวว่า กรณีการเคลื่อนไหวของนักเรียนนักศึกษา เห็นตั้งแต่สมัยแฟลชม็อบ จากการที่เชิญเข้ามาชี้เเจงในกรรมาธิการ สิ่งที่น่าสนใจคือ ผู้อำนวยการทุกโรงเรียน กล่าวว่า จะจัดสรรพื้นที่ที่ปลอดภัยให้กับนักเรียนในการเเสดงออกทางการเมือง เเต่สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้กลับสวนทางกันโดยสิ้นเชิง มีการกดดันทุกรูปแบบ เเละบรรยากาศอำนาจนิยมทางการเมืองแบบนี้ ที่คุกคามผู้มีสิทธิเลือกตั้งในขณะที่เขากำลังอายุ 18 ปี สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ มันคือความรุนเเรงที่เกิดขึ้นในโรงเรียน

ซึ่งตนคิดว่ามันเป็นโอกาสดีที่สุด ที่ครู จะสอนวิชาหน้าที่พลเมือง เเละบทบาทของประชาธิปไตย เปิดพื้นที่ในโรงเรียนให้แสดงออกในการเรียกร้องอย่างสร้างสรรค์ เเละเรียนรู้เรื่องรัฐธรรมนูญที่มีปัญหามากใขณะนี้ ทั้งนี้หากโรงเรียนไหนที่ถูกคุกคามทางการเมือง จากผู้มีอำนาจเเละเจ้าหน้าที่เกี่ยวตำรวจทหาร ขอให้ส่งข้อมูลเเละเบาะเเส ร้องเรียนมายังคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ เราพร้อมยืนเคียงข้างประชาชน

ค้าน นายกฯ อ้างนักเรียนชู 3 นิ้ว เพราะกลัวเพื่อนบลูลี่

ด้าน ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ กล่าวถึง กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่ากรณีที่นักเรียนแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองอย่างเเพร่หลายนั้น เกิดจากหากใครไม่ทำตามจะถูกเพื่อนในโรงเรียนบูลลี่ ซึ่งกรณีดังกล่าว ครูเเละบุคลากรทางการศึกษา ควรชี้เเจงเเละรับฟัง โรงเรียนคือที่ที่ควรส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนมีวัฒนธรรมในสถานศึกษา ไม่ใช่เป็นที่บ่มเพาะวัฒนธรรมอำนาจนิยม การเมืองเป็นเรื่องของนักเรียนทุกคน ดังนั้น เด็กทุกคนมีสิทธิเรียกร้องที่จะให้เกิดความเป็นธรรม ต่อการละเมิดสิทธิในสถานศึกษา เพราะพวกเขาคืออนาคตของชาติ