ไม่พบผลการค้นหา
'เพื่อไทย' จัดงานใหญ่ ‘แล่นสไลด์ ไปเปลี่ยนชีวิตคนเมือง’ ชวนผู้สมัคร ส.ส.​กทม. 33 คนทำภารกิจเดินทางจากบ้านถึงพารากอน ด้วยรถสาธารณะ ตอกย้ำนโยบายคมนาคม ‘20 บาท ตลอดสาย’

วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 10.30 น. ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 20 ลาดกระบัง (ยกเว้นแขวงลำปลาทิว) พรรคเพื่อไทย แถลงการจัดงาน ‘แล่นสไลด์ ไปเปลี่ยนชีวิตคนเมือง : จาก ‘การเดินทาง’ สู่การสร้างมหานครเพื่อคนไทย’ ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เวลา 15.30 น. ณ ลานพาร์คพารากอน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เพื่อปักธงนโยบายคมนาคมของพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเป็นนโยบายยกระดับชีวิตคนเมือง จากกรุงเทพมหานคร พื้นที่ปริมณฑล สู่การกระจายอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับประเทศ พรรคเพื่อไทยจึงจัดงานดังกล่าวขึ้น โดยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ คือ ‘ภารกิจ’ และ ‘งานเสวนา’ กิจกรรมนี้ เป็นการจัดงานครั้งใหญ่อีกหนึ่งครั้ง ก่อนปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้ายของพรรคเพื่อไทยจะจัดขึ้น เพื่อสื่อสารกับคนเมือง คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลโดยเฉพาะ 

ทั้งนี้ เป้าหมายสำคัญของพรรคเพื่อไทยที่มีนโยบายคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของคนไทยทุกคน ผ่านการเข้าใจ และเข้าถึงพื้นที่จริงของผู้สมัคร ส.ส. ทุกเขต

ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 20 ลาดกระบัง (ยกเว้นแขวงลำปลาทิว) พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กิจกรรมมี 2 ส่วนดังนี้ 

1.ส่วนของ ‘ภารกิจ’ ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ทั้ง 33 คน 33 เขต ต้องเดินทางจากบ้านหรือพื้นที่ทำงานของตัวเอง มายังลานพาร์คพารากอน เขตปทุมวัน เพื่อเข้าร่วมงานเสวนาให้ได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง 29 นาที โดยจะมีการถ่ายทอดสดการเดินทางของผู้เข้าร่วมตลอดเวลาการเดินทาง ย้ำว่าผู้สมัคร ส.ส. กทม. ทั้ง 33 คน จะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะเท่านั้น 

2.การพูดคุยถึงปัญหาการเดินทางของเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพมหานคร เมืองที่คนจากหลากหลายพื้นที่เดินทางเข้ามาทำงาน ใช้ชีวิต และสร้างเนื้อสร้างตัว ว่าวันนี้ระบบขนส่งมวลชนสร้างปัญหาอะไรกับผู้คนบ้าง และพรรคเพื่อไทย จะ ‘ลดรายจ่าย’ ส่วนนี้ได้อย่างไร และนโยบายคมนาคม โดยเฉพาะ ‘นโยบาย 20 บาทตลอดสาย’ จะแก้ปัญหาให้คนเมืองได้อย่างไร 

สำหรับผู้ร่วมสนทนาประกอบด้วย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย,ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะรณรงค์หาเสียง กทม. พรรคเพื่อไทย, ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 20 พรรคเพื่อไทย , จิราพร สินธุไพร ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดร้อยเอ็ด เขต 5 พรรคเพื่อไทย , วิพุธ ศรีวะอุไร สมาชิกสภากรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทย และคณะกรรมการจราจรและขนส่ง กทม.

นอกจากนี้ ธีรรัตน์ ประชาสัมพันธ์งานปราศรัยใหญ่ฝั่งธน ภาค กทม. ณ ลานตรงข้ามตลาดบางแค (ห้างองค์วิศิษฐ์เดิม) เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

ทั้งนี้ ประเสริฐ ยังได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวกรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียในหัวข้อ ‘จากหนู ถึง พี่นิด’ โดยมีประเด็นหนึ่งพาดพิงว่า พรรคเพื่อไทย ลงมติถอดกัญชาออกจากประมวลกฎหมายยาเสพติด และ ลงมติรับหลักการร่างกฎหมายกัญชา กัญชง นั้น ไม่เป็นความจริงและเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนเนื่องจากในข้อเท็จจริงนั้น การ‘ปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติด’ เป็นอำนาจโดยตรงของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งคืออนุทิน ได้ถอดกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ประเภทที่ 5 และออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2565 กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด แล้วจึงค่อยนำร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ฯ เข้าสภาในวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ซึ่งในช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ - ธันวาคม ระยะเวลาห่างกันถึง 10 เดือน ที่เกิดสุญญากาศ ซึ่งขัดต่อมติของพรรคเพื่อไทย ต้องมีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาก่อน ค่อยปลดล็อค และต้องใช้เพื่อการแพทย์เท่านั้น 

ประเด็นต่อมา แม้จะนำเอาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ เข้าสู่การพิจารณาของสภาในวาระที่ 2 ได้ แต่เนื่องจากร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯฉบับนี้มี 45 มาตรา และ กมธ.แก้ไข จนมี 95 มาตรา ซึ่ง ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยมีข้อห่วงใยในการใช้กัญชาเป็นอย่างมาก ต้องใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น การพิจารณาลงมติในวาระที่ 2 ทั้ง 95 มาตราทำได้เพียง 18 มาตรา ก็หมดวาระของสภาผู้แทนราษฎรไปเสียก่อน 

กล่าวโดยสรุปคือ ที่ อนุทินกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยรับหลักการนั้น ถือว่าคลาดเคลื่อน เพราะมีสมาชิกบางคนเห็นด้วยในการแก้ไขบางมาตรา และเป็นการเห็นด้วยในวาระที่ 2 เท่านั้น 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะเป็นการเปิดศึกกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายประเสริฐย้ำว่าไม่ใช่ เป็นการชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจระเบียบกฎหมายและขั้นตอนการพิจารณาเท่านั้น อยากยืนยันกับประชาชนว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้เห็นด้วยในการปลดล็อก แต่เป็นเหตุผลในทางการพิจารณากฎหมายดังที่กล่าวไป