ที่ประชุมวุฒิสภา โดยมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 หลังจากที่เห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเห็นว่ากระบวนการตรา พ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่การพิจารณาในวาระที่ 2-3 ของสภาผู้แทนราษฎร ทำให้วุฒิสภาต้องพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ใหม่ โดยมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มารับฟังการพิจารณา
นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) อภิปรายว่า ขอให้ใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีการจ่ายหัวคิวเหมือนการบริหารงานที่ผ่านมา ไม่มีการแสวงประโยชน์เพื่อตัวเอง ใครทุจริตคอร์รัปชันฉ้อราษฎร์บังหลวง ควรต้องลงโทษสถานหนัก ทุกวันนี้ประชาชนต้องเจอกับภัยแล้ง ฝุ่น และโรคระบาด ชาวต่างชาติไม่เดินทางมาเที่ยว ประชาชนได้รับผลกระทบ กฎหมายงบประมาณฉบับนี้เป็นหนทางสำคัญในการแก้ปัญหาประเทศ วุฒิสภามีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบการใช้งบประมาณเหล่านี้ไม่ให้รั่วไหลและสัมฤทธิ์ผลที่สุด
ด้าน พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ส.ว. กล่าวว่า กฎหมายบางครั้งเขียนไม่ครอบคลุม โดยเฉพาะเรื่องการนับเวลาการตรากฎหมายงบประมาณรายจ่าย ทำให้เสียเวลาในการนำงบประมาณไปใช้จ่าย ขณะที่ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว. กล่าวถึง คำแถลงในการพิจารณา พ.ร.บ.งบประมาณ ครั้งที่แล้ว โดยขอให้รัฐบาลปฏิบัติตามเพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ
ส่วนนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ส.ว. กล่าวถึง งบประมาณด้านยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเจริญเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ว่า การขับเคลื่อนเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของวุฒิสภา การบริหารงานต้องดำเนินไปคู่กับสิ่งแวดล้อม เช่น หากจำเป็นต้องตัดถนนผ่านอุทยานแห่งชาติ ก็ต้องหาทางรักษาทรัพยากรธรรมชาติ หรือเช่นการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่แต่ทำลายสิ่งแวดล้อม ก็ควรสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการพัฒนาแต่ก็รักษาสิ่งแวดล้อม
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงว่า ขอขอบคุณที่ดำเนินการผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้อย่างรวดเร็ว วันนี้นายกรัฐมนตรีมีภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดนครราชสีมา จึงไม่ได้มารับฟังการพิจารณาด้วยตนเอง หลังจากนี้สภาต้องเก็บร่างนี้ไว้อีก 3 วันและนายกรัฐมนตรีเก็บร่างนี้ไว้อีก 5 วัน ก่อนทูลเกล้าฯ แต่เนื่องจากงบประมาณปีนี้ล่าช้าจึงต้องใช้เงินจากงบประมาณกลาง 75 เปอร์เซ็นต์และโครงการต่างๆ ยังไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ แต่ตอนนี้ถือว่าเร็วกว่าที่คิด ทุกอย่างก็สามารถที่จะขยับได้ ข้อเสนอของสมาชิกวุฒิสภา ล้วนอยู่ในนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว และให้ความมั่นใจว่าจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความโปร่งใส
จากนั้น ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเอกฉันท์ เห็นชอบ 215 เสียง งดออกเสียง 6 โดยมีองค์ประชุม 217 คน รวมเวลาในการพิจารณา 1 ชั่วโมง 10 นาที
ข่าวที่เกี่ยวข้อง