นับจากกรณีที่ ‘ช่อ-พรรณิการ์ วานิช’ คณะก้าวหน้า ออกมาแฉปฏิบัติการไอโอของกองทัพ ซึ่งเชื่อมโยงถึงชื่อนายประสิทธิ์ หลังมี ‘โปรแกรมเมอร์’ รายหนึ่ง โพสต์เปิดโปงขบวนการไอโอ ในการใช้แอปพลิเคชัน 2 ตัว คือ Twitter Broadcast และ Free Messenger และพบว่ามีเซิร์ฟเวอร์อยู่ที่บริษัทเอกชนย่านห้วยขวาง
ต่อมา ‘ช่อ-พรรณิการ์ วานิช' คณะก้าวหน้า ได้นำมาขยายผล โดยจัดแถลงข่าว “เปิดวงจรอุบาทว์ไอโอ ผู้มูฟออนเป็นวงกลม” พบผู้เผยแพร่แอปพลิเคชัน มีชื่อว่า ‘วิมกริช วงศ์วิเศษศิริ’ เลขาธิการโครงการคืนคุณแผ่นดิน โดยทั้ง 2 แอปพลิเคชันใช้เซิร์ฟเวอร์ เดียวกับแอปพลิเคชัน M-Help Me โดย Mhelpme.com เป็นโดเมนเนมที่เป็นบริษัทของ S-Planet ที่มีผู้บริหารคือ ‘ชินนริทธิ์ โชติสุริยพงศ์’ ซึ่งทั้ง ‘วิมกริช-ชินนริทธิ์’ อยู่ภายใต้การบริหารของ ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ เจ้าของ M Group ที่เป็นผู้ทำแอปพลิเคชัน M Help Me ขึ้นมา
ต่อมา ‘ประสิทธิ์’ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวตอบโต้ ‘ช่อ-พรรณิการ์’ โดยยอมรับว่า เป็นคนพัฒนาบริษัททั้งหมด และให้ใช้เซิร์ฟเวอร์ฟรี ไม่ได้ใช้เงินหลวง และตั้งคำถามว่าคณะก้าวหน้าต้องการจัดการคนที่ออกมาปกป้องสถาบันหรือไม่ พร้อมไปแจ้งความคณะก้าวหน้า ต่อ อปท. ว่า พาดพิงโดยไม่มีข้อเท็จจริง
ทว่าในช่วงเวลานั้นโฟกัสสำคัญไปอยู่ที่ ‘ปฏิบัติการไอโอ’ ไม่ใช่ชื่อ ‘ประสิทธิ์ เจียวก๊ก’ ทำให้ไม่มีการไปตามขุดคุ้ยประวัติกัน
จนมาถึงในสัปดาห์นี้ หลังกองปราบฯ แจ้งข้อหา ‘เครือข่ายประสิทธิ์’ ฐานฉ้อโกงประชาชน นับพันล้านบาท
ทำให้ ‘ขบวนการประสิทธิ์’ ถูกขุดคุ้ยประวัติ ซึ่งพบว่าเกี่ยวโยงกับ ‘กองทัพ’ ด้วย โดย 1 ใน 6 ผู้ต้องหา คือ พันตรี พญ.อมราภรณ์ วิเศษสุข สังกัดกองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ช่วยราชการ รพ.ค่ายสุรนารี ในฐานะประธานโครงการเที่ยวเพื่อชาติ ที่หลอกลวงคนมาร่วมลงทุน
เมื่อตามขุดประวัติ 'ประสิทธิ์' จะพบรูปแบบการ ‘สร้างตัวตน’ ให้คนเชื่อถือ โดยจะปรากฏตัวเองกับบุคคลสำคัญหลายคน โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในกองทัพในหลายระดับ เช่น ระดับแม่ทัพภาค เป็นต้น ผ่านโครงการเพื่อสังคม เช่น การบริจาคสิ่งของต่างๆ รวมทั้งปรากฏภาพถ่ายกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ที่สวมสูทร่วมงานกลางผู้คนที่สวมเครื่องแบบทหาร ในงานวันสถาปนา ร.31 รอ. เมื่อ 10พ.ย.63 ซึ่ง ประสิทธิ์ เคยทำโครงการเพื่อสังคมกับหน่วยมา ซึ่งหลักฐานทั้งหมดอยู่ในเพจและเว็บไซต์ของนายประสิทธิ์เอง
ผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์ กองทัพยังไม่มีการออกมาชี้แจงใดๆในกรณีนี้
แม้สื่อจะพยายามสอบถามผ่านทีมโฆษกกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้ที่สามารถให้ข่าวได้ตามหน้าที่ ทำให้ข้อครหาดังกล่าวยังคงไม่เคลียร์ต่อสังคม รวมทั้งคำถามที่คณะก้าวหน้าถามถึงการตรวจสอบประวัติ ประสิทธิ์ เหตุใดจึงนำคนที่มีประวัติเช่นนี้มาร่วมงานกับกองทัพ ซึ่งยังคงค้างคาอยู่
ทั้งนี้ ประสิทธิ์ เคยปรากฏภาพกับ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ซึ่งเว็บไซด์ของนายประสิทธิ์ ระบุว่า ได้รับเกียรติจาก พล.อ.เปรม ให้มาติดตามงาน สานใจไทยสู่ใจใต้
‘อดีตนายทหารลูกป๋า’พล.อ.พิศณุ พุทธวงศ์ อดีตหัวหน้าสำนักงาน พล.อ.เปรมฯ ชี้แจงว่า ประสิทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการของ พล.อ.เปรม และเคยไม่อนุญาตให้เข้าพบ พล.อ.เปรม เป็นการส่วนตัว หลังเคยตรวจสอบข้อมูลไปที่ ทรงพล สวาดิ์ธรรม อดีตผู้ว่าฯ จ.กระบี่ ได้รับข้อมูลว่านายประสิทธิ์เป็นบุคคลที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่น่าไว้วางใจ ตนจึงไม่อนุญาตให้เข้าพบ
หากย้อนไปงานวันที่ พล.อ.เปรม เปิดบ้านสี่เสาเทเวศร์ ใน 1 ปี จะมี 3 งานหลักๆ ได้แก่ รับอวยพรวันปีใหม่ สงกรานต์และวันเกิด จะมีคณะต่างๆเข้ามาขอพร ซึ่งก็ไม่ได้มีการคุมเข้มบุคคลที่เข้ามามากนัก หรืออาจติดตามคณะบุคคลเข้ามา ซึ่งนายประสิทธิ์ ก็ได้เข้าไปถ่ายภาพกับ พล.อ.เปรม รวมทั้งไปถ่ายภาพกับ พล.อ.เปรม ในงานนอกสถานที่ด้วย
นอกจากนี้พบว่า ประสิทธิ์ ยังได้เข้าเรียนหลักสูตรจิตอาสาฯ โดยมีรหัสประจำตัว คือ 3 ก 355 โดยเรียนหลักสูตรพื้นฐาน 15 วัน รุ่นที่3 ปี2562 โดยอยู่ในกลุ่มบุคคลทั่วไป
อีกทั้ง ประสิทธิ์ยังได้มาเป็นวิทยากรหลักสูตรดังกล่าวด้วย โดยมาทำหน้าที่บรรยายเรื่องการใช้สื่อโซเชียลฯ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ติ๊กต๊อก เป็นต้น เพื่อใช้ในการประชาสัมพันธ์ต่างๆ ซึ่งการที่ ประสิทธิ์ ได้เข้าเรียนหลักสูตรดังกล่าว ทำให้ได้พบกับนายทหารและข้าราชการจำนวนมาก
หากถามว่า ประสิทธิ์ ปรากฏตัวกับบุคคลสำคัญครั้งแรกๆเมื่อใด จากเว็ปไซต์ของ ประสิทธิ์เอง พบภาพถ่ายอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตั้งแต่ยุค คสช.
โดยภายในภาพพบว่ามีโหรวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศร่วมอยู่ในภาพ โดยเป็นงานที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่ เม.ย. 2558 และเคยนำเยาวชนโครงการคืนคุณแผ่นดิน เข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ โดยภายในภาพพบว่ามี ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ อยู่ร่วมในภาพด้วย
อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวถูกจับตาเป็นอย่างมาก หลัง พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก. ได้รับหน้าที่เป็น หัวหน้าคณะชุดคลี่คลายคดี โดยได้นำตำรวจกองปราบฯ สนธิกำลังร่วมกับ บก.ปอศ. และ บก.ปอท. เปิดปฏิบัติการ “ปิดเกม คนเหนือโลก” 9 จุดเป้าหมายทลายเครือข่าย ประสิทธิ์ ไปเมื่อ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา อีกทั้งเริ่มมีการเผยแพร่ภาพ ประสิทธิ์ ขณะไปร่วมงานพิธีต่างๆออกมา
18 พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จิรภพ กล่าวถึงประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่า ประสิทธิ์ พาดพิงสถาบันจะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 หรือไม่ ว่า จากการตรวจสอบพบว่า การกระทำของ ประสิทธิ์ ที่ทำทีเป็นจิตอาสาทำความดี อันเป็นลักษณะการฉ้อโกง เพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเองนั้น ยังไม่เข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย ไม่ได้มีการระดมทุน โดยอ้างว่าจะนำเข้าสถาบัน
ต้องติดตามว่าจะมีหน่วยงานใดไปฟ้องร้อง ประสิทธิ์หรือไม่ หากนำชื่อบุคคลหรือองค์กรไปแอบอ้างหาประโยชน์หรือไม่ โดยเฉพาะกองทัพที่ตกเป็นจำเลยอยู่ในปัจจุบัน
ซึ่งกองทัพยังคงรับบท ‘จ่าเฉย’ ไม่ออกมาชี้แจงใดๆ มีเพียง ตร. เท่านั้น ที่ให้ข่าวกรณีนี้ และต้องจับตาว่า ‘ขบวนการประสิทธิ์’ ขยายผลไปถึงใครอีกบ้าง
อย่าได้กะพริบตา !!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง