วันที่ 3 มี.ค. เวลา 13.00 น. ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินหน้า “แฉเพื่อชาติ ตายยกรัง” ทำไวนิล คำพิพากษาศาลฎีกา เขากระโดง พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 5,083 ไร่ พร้อมมาร์คจุด สิ่งก่อสร้าง ทั้ง สนามฟุตบอลช้างอารีน่า สนามแข่งรถ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต หจก. บุรีรัมย์เจริญคอนทรัคชั่น บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์(1991) จำกัด บ้านพัก ศักดิ์สยาม ชิดชอบ บ้านพัก เนวิน และ เครือข่ายตระกูลชิดชอบ และ ชาวบ้าน 35 คน ที่แพ้คดีการรถไฟแห้งประเทศไทย มีคำพิพากษาให้รื้อถอนขับไล่ 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนเริ่มแถลงข่าว ชูวิทย์ ได้เลียนแบบท่าทาง สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการ “เฒ่าเล่าเรื่อง” ด้วยการเดินถือไม้เท้า แบบคนชรา และพูดว่า “จะมาแฉผมทำไม ข้อมูลผมอยู่ใน Google เยอะแยะ ผมไม่ได้กลัวอะไรคุณอยุ่แล้ว จะมาว่าผมเรื่องอาบอบนวดทำไม เพราะคุณยังเคยมาอาบอบนวดผมเลย ทำไมถึงมาว่ากันได้” 

จากนั้น ชูวิทย์ เริ่มต้นเอ่ยถึง ศุภวัฒน์ ที่เป็นลูกจ้างของบริษัท บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น บริษัทของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ ซึ่ง ศุภวัฒน์ มีเงินเดือน 9,000 บาท แต่กลับมีรายชื่อปรากฏเป็นผู้ถือหุ้น 119 ล้านบาท และพบว่า ศักดิ์สยาม มีการโอนเงินให้จำนวน 40 ล้านบาท ยิ่งไปกว่านั้น ศุภวัฒน์ ยังมีรายชื่อ บริจาคเงินให้ พรรคภูมิใจไทย 7.5 ล้านบาท และยังให้บริษัทตัวเองกู้เงินจำนวน 221 ล้านบาท โดยไม่มีดอกเบี้ยและสัญญาเงินกู้ รวมถึงยังรับงานก่อสร้างของกรมทางหลวงหลายโครงการ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดนั้น แสดงให้เห็นว่า ศุภวัฒน์ เป็นนอมีนีของ ศักดิ์สยาม 

ส่วนที่ดินเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่เป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างของเครือข่ายตระกูลชิดชอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย จำนวน 5,083 ไร่ และมีคำพิพากษาศาลฎีกา ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็นจำเลย และโจทก์ เป็น ศุภวัฒน์ 1 คดี และ ชาวบ้าน 35 คนอีก 1 คดี แต่สุดท้าย รฟท. ชนะคดีและมีการขับไล่ ชาวบ้าน 35 คน ออกจากพื้นที่ แต่ รฟท. กลับไม่กล้าที่จะไล่ เครือข่ายตระกูลชิดชอบ ออกจากพื้นที่ จนเป็นที่มาของการสร้างอาคารต่างๆ ทั้ง สนามฟุตบอลช้างอารีน่า และสนามแข่งรถ ซึ่งเป็นการนำเงินหลวงมาใช้ในการก่อสร้างทั้งหมด ไม่ใช่เงินส่วนตัวเลย แต่กลับไม่เปิดเป็นพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนได้ใช้ โดย ชูวิทย์ มองว่า เป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดเท่าที่พรรคภูิใจไทยทำต่อประเทศชาติ 

ชูวิทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่มีการก่อสร้างสนาม คนของการกีฬาแห่งประเทศไทย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย อีกทั้ง ก้องศักด ยอดมณี ที่ตอนนี้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย ยังเป็นผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทย ในปัจจุบันอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังพบว่า รฟท. ได้ไปร้องศาลปกครอง เพื่อขอให้กรมที่ดินเพิกถอนโฉนดที่ดินดังกล่าว จากตระกูลชิดชอบ ให้ย้ายออก และยังเรียกร้องให้กรมที่ดินจ่ายค่าเสียหายอีก 700 ล้านบาท ให้กับ รฟท. ซึ่งตนมองว่า เจตนาที่การรถไฟร้องศาลปกครองแบบนี้ เป็นการประวิงเวลา แทนการฟ้องขับไล่โดยตรง และหากกรมที่ดินจ่ายก็จะเป็นการนำภาษีประชาชนมาจ่าย ซึ่งจะส่งผลเสียทั้งขึ้นและล่อง

นอกจากนี้ ชูวิทย์ ยังเรียกร้องไปยัง นิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย คนปัจจุบัน เข้ามาจัดการเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้อง เพราะ ศักดิ์สยาม มีการตั้งบริษัทลูก เข้ามาประมูลโครงการต่างๆของ รฟท. ซึ่ง ศักดิ์สยาม วางแผนการไว้หมดแล้ว ตนมองว่า เป็นการกินมูมมาม ไม่มีสติเกินไป ส่งผลเสียต่อประเทศ

นอกจากนี้ ชูวิทย์ ยังพูดถึงผลคำพิพากษาศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้ ศักดิ์สยาม ยุติการปฏิบัติหน้าที่ รมว.คมนาคม ตนมองว่า วันนี้ฟ้าดินบัลดาลให้เป็นจริง เห็นว่าใครทำผิด และตนอยากให้ ศักดิ์สยาม ติดคุกนานกว่าที่ตนเคยติดคุกมา และต้องรับในสิ่งที่ทำ เพราะตนเชื่อว่า ศักดิ์สยาม ต้องติดคุก 100% 

จากนั้น ชูวิทย์ ได้นำเค้กรูปที่ดินเขากระโดง ที่ตนเองสั่งทำเข้ามา ก่อนสวดมนต์สาปแช่งถึงคนที่กินที่ดินหลวงว่าอร่อยมากมั้ย และแช่งให้ตระกูลชิดชอบ ฉิบหายวายวอดทั้งหมด

ชูวิทย์ ยังได้แสดงเอกสารทีมีชื่อ จิตต์อรุณ อนุพันธ์นัณท์ คนสนิทของ ปลิว ตรีวิศวเวทย์ เจ้าของบริษัท ช.การช่าง ซึ่ง จิตต์อรุณ จะชอบทำตัวจนๆ แต่กลับหิ้วเงินหลายสิบล้านบาทไปให้กับนักการเมืองที่จังหวัดบุรีรัมย์ ในรายละเอียดของเอกสาร พบว่า จิตต์อรุณ และ พนักงานของ ช.การช่าง อีก 15 คน มีรายชื่อครอบครองที่ดิน สปก. จำนวน 700 ไร่ ในตำบลหนองย่างเสือ อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี มีนโยบายจัดสรรที่ดินดังกล่าวให้กับชาวบ้านที่ยากไร้ทำเกษตร แต่ฝ่ายกฎหมายของผู้ว่าฯกลับแนะนำให้แปลงสินทรัพย์เป็นทุนเพื่อจำนอง โดยให้ ช.การช่างไปขอสินเชื่อยื่นร่วมเป็นกลุ่ม อ้างให้ปลูกไม้ยืนต้นในที่ดินดังกล่าว เพื่อให้ สปก.ยึดคืนได้ยาก ซึ่งกระบวนการทั้งหมด ปลิว รู้ดีทั้งหมด เพราะมีเอกสารบันทึกภายในบริษัทเป็นหลักฐาน พร้อมยืนยันว่าที่ออกมาแฉถึง ช.การช่าง ตนไม่กลัวที่จะถูกฟ้องกลับ 

ระหว่างนั้น ชูวิทย์ ยังได้นำโมเดลขบวนรถไฟสีส้ม ออกมา ระบุว่า รถไฟสายสีส้มและศักดิ์สยามเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด อีกทั้งยังพูดไปถึง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่าเกรงกลัวพรรคภูมิใจไทย เพราะอยากอยู่ในตำแหน่ง และพรรคภูมิใจไทยเป็นฐานเสียงจึงต้องปกป้อง และยังถามไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ อีกว่า ต้องการแค่นี้เหรอ ไม่อยากให้ประเทศเจริญเหรอ ทำไมให้คนเหล่านี้เข้ามามีตำแหน่งในการบริหารประเทศ เพราะเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุดของประเทศ

ทั้งนี้ ชูวิทย์ ยังพูดถึงการประมูลการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ว่า เป็นอาถรรพ์มาก เพราะต้องลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดพระแก้ว หากใครกระทำโดยมิชอบก็ขอให้มีอันเป็นไป และยังพูดถึง บริษัทที่เข้ามาประมูลจะต้องมี 3 คุณสมบัติคือ 1. ระบบราง 2. อุโมงค์ 3.สถานี ซึ่งมีหลายบริษัท เข้ามาประมูล ทั้ง บ.อิตาเลียนไทย ที่เสนอ 120,000 ล้านบาท ช.การช่าง เสนอ 9 หมื่นกว่าล้านบาท และ บ.BTS เสนอ 9,700 ล้านบาท ซึ่งราคากลาง อยู่ที่ 9 หมื่นล้านบาท ทำให้ ช.การช่างได้รับงานดังกล่าวไป ซึ่ง ชูวิทย์ มองว่า การให้ ช.การช่างได้งานไปทำให้เกิดความเสียหาย 700%

จากนั้น ชูวิทย์ ได้มีการ ฉีดสเปรย์ใส่โมเดลรถไฟสีส้ม และใช้ค้อนทุบ พร้อมตัดเค้กเขากระโดง สาปแช่ง ถ้าใครโกงกินเงินของประเทศชาติ ให้มันฉิบหายมีอันเป็นไปทั้งตระกูล