ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงสาธารณสุข เผยมาตรการเฝ้าระวังผลกระทบ “กากแคดเมียม” ในโรงงานสมุทรสาคร ระยะเร่งด่วน ตรวจสุขภาพพนักงาน 11 ราย เบื้องต้นยังปกติ เตรียมประสานบริษัทนัดคนงานตรวจเพิ่ม พร้อมสุ่มตรวจเฝ้าระวังสารพิษในประชาชน ส่วนรพ.สมุทรสาคร เตรียมพร้อมบุคลากร ยา เวชภัณฑ์ สารแก้พิษ ให้ความรู้ป้องกันตนเองจากสารเคมี พร้อมสุ่มตรวจเพิ่มในระยะ 3-6 เดือนต่อไป

วันที่ 5 เม.ย. 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลกรณีโรงงานหลอม จ.สมุทรสาคร เก็บกากแร่แคดเมี่ยม ขณะนี้สั่งการให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเร่งติดตามความคืบหน้าของสุขภาพประชาชนในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยจะต้องดูว่าประชาชนแต่ละจุดได้ใกล้ชิดกับพื้นที่โรงงานเก็บกากแคดเมี่ยมอย่างไร 

ถ้าเกิดผลกระทบต่อสุขภาพจะเริ่มตรวจ แต่ต้องพิสูจน์ให้ชัดว่าอาการป่วยเกิดจากสารอันตรายจากแคดเมี่ยมในโรงงานจริงหรือไม่ ส่วนถ้ายังไม่พบอาการป่วย จะต้องเฝ้าระวัง ทางกระทรวงมีหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เร็ว เข้าไปทำการเฝ้าระวัง คัดกรอง หากประชาชนรายใดรู้ว่าตนมีความเสี่ยงสัมผัสสารให้ติดต่อหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ได้ทันที ล่าสุดสาธารณสุขสั่งกักตัวคนงานในโรงงาน 11 คน ไว้แล้ว

ด้าน นพ.กิตติ กรรภิรมย์ รักษาราชการแทนผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 5 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตรวจพบกากแคดเมียมและกากสังกะสีจำนวนมากภายในโรงงาน 3 แห่ง ในจังหวัดสมุทรสาคร ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงความปลอดภัยของประชาชน ได้มอบหมายให้ตนลงพื้นที่กำกับดูแลการดำเนินมาตรการด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด โดยในช่วงระยะเฉียบพลัน (48 – 72 ชั่วโมง) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครและโรงพยาบาลสมุทรสาคร จะเฝ้าระวังผลกระทบด้านสุขภาพในกลุ่มผู้สัมผัสและกลุ่มเสี่ยงโดยการตรวจสุขภาพพนักงานบริษัททุกคน เบื้องต้นตรวจแล้ว 11 ราย ผลเป็นปกติ ส่วนการตรวจหาสารแคดเมียมในปัสสาวะจะทราบผลภายใน 3 – 5 วัน และบริษัทจะนัดหมายพนักงานส่วนที่เหลือให้รีบมาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลสมุทรสาครต่อไป ส่วนการเฝ้าระวังในประชาชน จะมีการตรวจสุขภาพและสุ่มตรวจสารแคดเมียมในปัสสาวะ เพื่อประเมินผลกระทบทางด้านสุขภาพ และให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องการได้รับสารพิษ และอาการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

นพ.กิตติ กล่าวต่อว่า สำหรับการเตรียมพร้อมด้านการรักษาพยาบาล กรณีที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมนั้น โรงพยาบาลสมุทรสาครได้เตรียมสถานที่และผู้เชี่ยวชาญ ยา เวชภัณฑ์ และสารแก้พิษไว้แล้ว พร้อมทั้งสื่อสารความรู้กับพนักงานที่เกี่ยวข้องกับการขนย้ายกากสารเคมีในการดูแลตนเองขณะที่มีการขนส่งกลุ่ม อสม.และประชาชน ให้ความรู้การดูแลตนเอง และอาการที่เกี่ยวเนื่องกับการได้รับสารแคดเมียม รวมถึงเผยแพร่ความรู้ในสื่อโซเชียลต่างๆ ของหน่วยงาน และยังจัดทีมเยียวยาจิตใจลงพื้นที่เพื่อประเมินสุขภาพจิตของประชาชน ส่วนในระยะถัดไป ช่วง 3 – 6 เดือน จะสุ่มตรวจเพิ่มเติมในประชาชนและเฝ้าระวังอาการโดยเฉพาะกลุ่มพนักงานในโรงงาน และตรวจการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานด้วย