ไม่พบผลการค้นหา
‘ตรีชฎา’ จวก ‘ภราดร ภูมิใจไทย’ ฟังข้อห่วงใยนโยบายกัญชาเสรีจากพี่โทนี่ และประชาชน เหตุตอนนี้ยาเสพติดเกลื่อนเมืองพอแล้ว อย่าปล่อยให้ถั่วสุกงาไหม้จนกลายเป็นไฟไหม้ฟาง

ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประเด็นที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แสดงความกังวลในรายการคลับเฮาส์หลังปรากฏภาพนักเรียนสูบกัญชาในโรงเรียน แต่กลับถูกภราดร ปริศนานันทกุล โฆษกพรรคภูมิใจไทยออกมาตอบโต้ต่อว่า รัฐบาลมีประกาศกระทรวงสาธารณสุขแล้วนั้น อยากให้ภราดร เข้าใจในข้อเท็จจริงว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมานั้นมีไว้ตามโครงสร้างเท่านั้น แต่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริงในทางปฏิบัติในภาพรวม ทั้งในแง่ของการควบคุมการใช้และบทลงโทษ หากระเบียบที่มีอยู่บังคับใช้ได้ผลจริง เหตุใดจึงยังมีข่าวเด็กและเยาวชนเสพกัญชาในสถานศึกษา มีเหตุการเสพยาเสพติดอื่นๆ จนทำร้ายร่างกาย เกิดเหตุอาชญากรรมเสียชีวิต มากมายเต็มเมืองแบบนี้

ตรีชฎา กล่าวอีกว่า อยากให้ภราดร วางกัญชาในหัวใจลงก่อน แล้วตั้งใจฟังสิ่งที่ ทักษิณสะท้อนมาจะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะอย่าลืมว่ายุคที่ ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นยุคที่มีนโยบายทำสงครามกับยาเสพติด ไม่มียาเสพติดราคาถูก ไม่มีลูกหลานเข้าถึงและติดยาเสพติดมากเหมือนทุกวันนี้ และในขณะนี้ ทักษิณ มีความเป็นห่วงใยอนาคตของลูกหลาน อนาคตของประเทศ ทั้งในบทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรีที่มีความรู้ มีความสามารถและมีประสบการณ์ในการปราบปรามยาเสพติดมาก่อน และในบทบาทของประชาชนคนไทย ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรรับฟัง โดยควรมีกฎหมายออกมาเพื่อควบคุมและมีบทลงโทษ ไม่ใช่ปล่อยเสรีแล้วมาตามควบคุมภายหลัง เพราะจะควบคุมไม่อยู่ ดังสุภาษิตคำพังเพยไทยว่า กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ และจะไหม้เหมือนไฟไหม้ฟาง

 ทั้งนี้การที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา เสนอเข้าสภาวาระ 2 ถูกทักท้วง พรรคร่วมรัฐบาลเดียวกันยังไม่เอาด้วย จนถูกดึงออกไปก่อน ภราดรควรไปจัดการไล่เบี้ย เคลียร์กันให้รู้เรื่องในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ควรแสดงตัวโหนกระแสหาซีนจากคำเตือนของ ทักษิณ แบบนี้ และอยากให้ภราดร กลับไปฟังคลิปที่อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พูดเอง ว่าพี้ในบ้านได้ แม้จะออกมาบอกภายหลังว่าไม่สนับสนุนการนันทนาการคงไม่ทันการแล้ว และการที่มีคลิปนักเรียนหญิงชายเสพกัญชาในโรงเรียน โดยโยนความผิดชอบไปที่ผู้อำนวยการโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพียงเท่านี้ก็กระจ่างถึงวุฒิภาวะการเป็นผู้นำแล้ว ว่าการเป็นผู้บริหารที่ดีควรรู้จักการยอมรับผิดเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อผิดต้องหาทางแก้ไขและรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชน 

“ความจริงหากพรรคภูมิใจไทย นำในสิ่งที่แพทย์ บุคลากรทางการศึกษาและภาคสังคม สะท้อนมา และนำมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อประโยชน์สูงสุด จะเกิดผลดีต่อเยาวชน ประชาชนและประเทศชาติอย่างใหญ่หลวง ไม่ใช่เอาแต่ออกมาตีโพยตีพาย กล่าวหาพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าไม่ผ่าน ร่าง พ.ร.บ.กัญชาให้ ตราบใดที่ที่นั่ง ส.ส.ในสภา มีไม่มากพอที่จะทำให้กฎหมายผ่านได้ ก็ควรฟังผู้อื่นบ้าง อย่ามองความหวังดีเป็นภาพหลอนมองโลกในแง่ร้าย อนาคตลูกหลานถูกทำลายไปมากแล้ว ควรนำประโยชน์และโทษเดินเป็นคู่ขนานกันไป ดีกว่าเดินหน้าโดยไม่สนใจเสียงท้วงติง แล้วจะอยู่ด้วยความภูมิใจเหมือนชื่อพรรคได้อย่างไร” ตรีชฎา กล่าว