การโจมตีทางอากาศใส่งานคอนเสิร์ตบริเวณทางตอนเหนือของรัฐคะฉิ่นในครั้งนี้ นับเป็นการโจมตีที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 60 ราย โดยเป็นตัวเลขการตายที่สูงที่สุดจากการโจมตีเพียงครั้งเดียว เท่าที่เคยกระทำโดยกองทัพเมียนมา ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารเมื่อเดือน ก.พ.ปีก่อน เพื่อล้มล้างอำนาจการปกครองรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ อองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐ
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีแหล่งข่าวยืนยันแน่ชัดว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้างในเหตุการณ์การโจมตีครั้งนี้ ทั้งนี้ มีการส่งต่อภาพนิ่งและวิดีโอถึงเหตุการณ์หลังจากการโจมตี ซึ่งปรากฏให้เห็นถึงภาพสิ่งก่อสร้างจากไม้ที่ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง อีกทั้งภาพของจักรยานยนต์ เก้าอี้พลาสติก และสิ่งของต่างๆ ที่ถูกทำลายโดยระเบิด
เป็นเวลากว่าหลายทศวรรษที่กองกำลังชนกลุ่มน้อยลุกขึ้นติดอาวุธ เพื่อพยายามเรียกร้องอำนาจการปกครองตนเองจากกองทัพเมียนมา แต่หลังจากการรัฐประหาร ประชาชนชาวเมียนมาทั่วทั้งประเทศต่างลุกฮือขึ้นต่อต้านการยึดอำนาจของกองทัพ ส่งผลให้เกิดแนวร่วมประสานต้านกองทัพเมียนมาจากทั้งทางฝั่งประชาชนชาวเมียนมาทั่วไปและชนกลุ่มน้อยต่างๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้กองทัพเมียนมายังคงไม่สามารถคุมอำนาจได้โดยสมบูรณ์
เมียนมาเกิดสงครามกลางเมือง นับตั้งแต่กองทัพทำการปราบปรามผู้ประท้วงด้วยความรุนแรง โดยจากรายงานระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 2,300 รายถูกกองทัพเมียนมาสังหาร ยังมีประชาชนอีก 15,000 ที่ถูกจับกุมตัว และตัวเลขดังกล่าวยังคงพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
งานคอนเสิร์ตในครั้งนี้ จัดขึ้นเนื่องในโอกาสครบรอบ 62 ปี การก่อตั้งองค์กรเอกราชคะฉิ่น (KIO) ซึ่งเป็นฐานการฝึกรบของกองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIA) โดยงานในครั้งนี้ จัดขึ้นใกล้กันกับบริเวณหมู่บ้านอองบาร์เลย์ ของเมืองผะกันในภูเขาที่ห่างออกจากนครย่างกุ้งทางตอนเหนือประมาณ 965 กิโลเมตร
โฆษกของสมาคมศิลปินคะฉิ่นระบุกับสำนักข่าว AP ว่า จากการเปิดเผยของนักดนตรีที่เล่นอยู่ในงานคอนเสิร์ต พวกตนเห็นเครื่องบินรบของกองทัพเมียนมาบินเข้ามา และทิ้งระเบิดในพื้นที่คอนเสิร์ตเมื่อช่วง 20.00 น.ของเมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) โดยภายในคอนเสิร์ตมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 300 ถึง 500 คน ทั้งนี้ มือคีย์บอร์ดของวงเป็น 1 ใน 60 ผู้เสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวด้วย
ในบรรดาผู้เสียชีวิตยังมีสมาชิกกองกำลัง KIA คนครัว นักธุรกิจเหมืองหยก และพลเรือนทั่วไป ทั้งนี้ มี 10 นายทหารจากกองทัพคะฉิ่นและแขกวีไอพี ที่เสียชีวิตจากการโจมตีโดยกองทัพเมียนมาด้วย ยังมีรายงานอีกว่า กองทัพเมียนมานำรถมาปิดถนน เพื่อขัดขวางการนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาลด้วย ทั้งนี้ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและสหประชาชาติ ได้ออกมาประณามการโจมตีในครั้งนี้ของกองทัพเมียนมา พร้อมชี้ว่าการโจมตีอาจยกระดับสถานการณ์ความขัดแย้งให้ย่ำแย่ลงไปกว่าเดิม
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกอาเซียน มีกำหนดการหารือกันในสัปดาห์นี้ ในการหาทางออกให้กับวิกฤตในเมียนมา อย่างไรก็ดี ความพยายามดังกล่าวของอาเซียนยังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ เป็นรูปธรรม โดยในเดือนก่อน กองทัพเมียนมาเพิ่งทำการโจมตีโรงเรียนบริเวณพื้นที่สะกาย ส่งผลให้มีเด็กเสียชีวิตกว่า 11 ราย และยังมีผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ใหญ่อีก 2 ราย
ที่มา: