ไม่พบผลการค้นหา
มติที่ประชุมสภาฯ 270 ต่อ 196 เสียงอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน ด้าน 'ชลน่าน' ชำแหละปิดท้ายคว่ำ พ.ร.ก.ออกไม่จำเป็นเร่งด่วน เปรียบ 'ประยุทธ์' เป็นหมอกู้เงินมาแล้วล้มเหลว รักษาผู้ป่วยไม่ได้ ปลุกประชาชนยื่นฟ้องนายกฯ ฐานประมาทเลินเล่อทำให้มีคนตายก่อนวัยอันควรจากการแพร่ระบาดโควิด

เวลา 09.30 น. วันที่ 10 มิ.ย. 2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเรื่องด่วน พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 วงเงิน 5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อเนื่องวันที่สอง โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายเป็นคนสุดท้ายของฝ่ายค้าน โดยชี้ว่า พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน เนื้อหาไม่ต่างจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้าน และย้ำว่าตลอดการอภิปรายของสมาชิกที่ผ่านมา ยกเป็นประเด็นและเหตุผลในการพิจารณาให้ความเห็นชอบอนุมัติกฎหมายฉบับนี้ มี 3 ประเด็นหลัก 

คือ 1.เหตุและผลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 

2. สาระของกฎหมาย

และ3. แผนงานจะตอบโจทย์การขออนุมัติได้หรือไม่ ซึ่งหากตอบโจทย์ได้พรรคการเมืองฝ่ายค้านก็จะให้อนุมัติความเห็นชอบ และดูรายละเอียดการใช้เงิน จากการกู้เงิน 1 ล้านล้านที่ผ่านมาเกิดประสิทธิภาพหรือไม่ ที่จะพิจารณาถึงความสามารถของผู้บริหารในการใช้เม็ดเงินงบประมาณ

นพ.ชลน่าน ยังท้วงติงท่าทีการชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า ในฐานะส.ส. ที่เป็นผู้แทนประชาชนรู้สึกหดหู่ ที่นายกฯ มีท่าทีที่ ขึ้นเสียง-ถกเถียง-กดดัน กับการอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์ของ ส.ส. จนนายขจิต ชัยนิคม ลุกขึ้นทักท้วง พร้อมยังฝากประธานที่ประชุมให้เตือนนายกรัฐมนตรีมีมารยาทในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร 

เปรียบหมอ 'ประยุทธ์' รักษาคนป่วย แต่กู้เงินยังรักษาผู้ป่วยไม่ได้

นพ.ชลน่าน ระบุว่าการอนุมัติการกู้เงินครั้งแรก เสมือนการอนุญาตให้หมอที่ชื่อ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ไปรักษาคนป่วย ที่คนป่วยโควิด-19ตั้งแต่ปี 2563 และมีการกู้เงินไปแล้ว 1 ล้านล้านบาทที่สภาฯให้ความเห็นชอบ วัตถุประสงค์เพื่อไปยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด ทั้งยังใช้งบกลางปี 2564 อีก 7 หมื่นล้านบาท 

"การใช้เงินที่ผ่านมายังไม่สามารถรักษาผู้ป่วยให้ฟื้นได้ เปล่าประโยชน์ และการตัดสินใจที่ผิดพลาดเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ แต่ยังขอออก พ.ร.ก.กู้เงินอีก 5 แสนล้านบาท ทำให้ฝ่ายค้านตัดสินใจได้ง่ายว่า ไม่เห็นชอบที่จะอนุมัติ เพราะผลงานที่ผ่านมาล้มเหลวไร้ความสามารถ ไม่ดูบริบทการแก้ปัญหาของต่างประเทศ"

ปลุกประชาชนฟ้องนายกฯ ปล่อยให้คนตาย

นพ.ชลน่าน ระบุว่า การจ่ายเงินเยียวยาน่าจะมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งเรื่องการเมือง ค่าตอบแทนเป็นเงิน สังเกตจากการเยียวยาช่วงแรกจ่ายเงินสดโดยตรง ช่วงที่ 2 จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีกระเป๋าตังค์ คนละครึ่ง ซึ่งการแจกฟรีนี้ข้อมูลจากทีดีอาร์ไอ สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 0.85% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยมาก จึงสงสัยว่าเหตุใดจึงคิดวิธีนี้ เป็นตัวเลขที่ไม่ตอบโจทย์นี่คือวิธีที่หมอประยุทธ์ทำ จึงมองว่าไม่สามารถแก้ปัญหาได้ นักเศรษฐศาสตร์ได้มีการวิเคราะห์ตัวเลขมาแล้วว่าการจะแก้ปัญหาได้ต้องใช้เม็ดเงินที่มีตัวเลขสูงถึง 2 ล้านล้านบาท

"เราจะปล่อยให้หมอคนนี้รักษาต่อไปหรือไม่ ต้องถอนใบอนุญาต ซึ่งในส่วนของความผิดพลาดที่ทำให้มีคนตายก่อนวัยอันควรถือเป็นความประมาทเลินเล่อผิดพลาดบกพร่องในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ สามารถฟ้องร้องได้ ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ต้องรับผิดทางละเมิด

นพ.ชลน่าน ระบุว่า "ผมยุให้ประชาชนฟ้องเป็นตัวอย่าง จะได้มีตัวอย่างผู้นำรัฐบาลที่ทำให้เกิดความเสียหาย ประชาชนล้มตาย ถูกประชาชนฟ้อง ท่านเคยฟ้องนายกฯ คนก่อนๆ ศาลออกมาหมดแล้ว แต่สิ่งที่ประจักษ์ชัดของนายกฯ มันเห็นคือคนนี้คือมีคนตาย สิ่งที่หมอคนนี้ทำลายวัฏจักรชีวิตของมนุษย์"

นพ.ชลน่านระบุว่า กระดาษแผ่นนี้ไม่เห็นค่า ไม่เห็นหัวประชาชน ขอฉีกทิ้งเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ที่สภาอเมริกาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ มีเพื่อนสมาชิกกล้าหาญที่จะทำแบบนี้เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าไม่เห็นหัวประชาชน คนที่ส่งเข้ามาจะได้มีจิตสำนึก"

นพ.ชลน่าน ย้ำว่า พวกเราไม่เห็นชอบเพราะฉบับนี้ ซึ่งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ไม่ใช่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงได้ แทนที่จะอยู่งบประมาณกลับมาเป็นกฎหมายพิเศษ

อาคม สภา พระราชกำหนด กู้เงิน C4B6ADAE18FF.jpeg

ด้าน อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ชี้แจงว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่ใช่ประเทศเราประเทศเดียว คือการแพร่ระบาดโควิด-19 เกิดขึ้นทั่วโลกในภาวะไม่ปกติ ส่วนการกู้เงินจะเป็นภาระที่ต้องกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีอย่างไร ก็คงแตกต่างกัน เมื่อวานได้มีสมาชิกพูดว่าในอดีตหนี้เพิ่มขึ้นแต่ค่อยๆปรับลดลงเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหนก็จะทำให้ประชาชนและธุรกิจนั้นมีรายได้ การจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถการชำระหนี้และสัดส่วนหนี้จะดีขึ้น  

มติสภาฯ 270 ต่อ 196 เสียงอนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้าน

เวลา 10.45 น. สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุมได้เรียกสมาชิกให้แสดงตนเพื่อลงมติ โดยมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร อนุมัติ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาทด้วยคะแนนเสียง เห็นด้วย 270 เสียง ไม่เห็นด้วย 196 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และ ไม่ลงคะแนนเสียง 2 เสียง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง