วันที่ 11 ก.พ. 2565 ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ ระยอง แกนนำราษฎร กล่าวหลังได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า เตรียมลงพื้นที่จังหวัดระยอง เพื่อดูกรณีปัญหา "ท่อน้ำมันดิบ" กลางทะเลมาบตาพุด ซึ่งที่ผ่านมาได้ติดตามสถานการณ์ เรือน้ำมันรั่วมาก่อนหน้านี้จากทนายความที่เข้าเยี่ยมมาโดยตลอด ซึ่งขณะนี้ทราบว่ามีคณะทำงานด้านสิ่งแวดล้อมในเครือข่ายลงพื้นที่ไปแล้ว ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองได้ติดตามข่าวสารบ้างแต่ยังไม่ครบถ้วน จึงขอเวลาศึกษาข้อมูลอีกสักพักก่อนกำหนดท่าทีต่อไป
ภาณุพงศ์ ยังกล่าวถึง แกนนำราษฎรที่ยังอยู่ในเรือนจำว่าสภาพจิตใจเข้มแข็งดีและยืนยันจะต่อสู้ต่อไป พร้อมฝากขอบคุณมวลชนที่อยู่ด้านนอกด้วย และตนก็ยืนยันที่จะต่อสู้ต่อไป แกนนำทุกคนจะไม่ทำให้มวลชนผิดหวัง และขอบคุณราษฎรที่อยู่ภายนอกเรือนจำ ที่จัดกิจกรรมเรียกร้องสิทธิการประกันตัวและเรียกร้องความเป็นธรรมมาอย่างต่อเนื่อง
โดยหลังการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน "ไมค์ ระยอง" ได้สวมกอดกับ ยุพิน มณีวงศ์ มารดาที่มารอรับ พร้อมหอมแก้มกันและกัน สร้างความประทับใจให้กับมวลชนที่มาต้อนรับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น
ยุพิน มณีวงศ์ มารดานายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ 'ไมค์ ระยอง' แกนนำราษฎร ให้สัมภาษณ์ทีมข่าว ‘วอยซ์ทีวี’ หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ระหว่างรอการปล่อยตัว ภาณุพงศ์ หลังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ในคดีอาญามาตรา 112 และอื่นๆ จากการชุมนุม #อยุธยาจะไม่ทนอีกต่อไป เมื่อปี 2563
ด้าน ยุพิน ระบุว่า ดีใจอย่างยิ่งที่บุตรชายคนเล็กของตนจะได้รับอิสรภาพในครั้งนี้ แต่คดีความและการต่อสู้ทางการเมืองยังไม่สิ้นสุด ยังมีคดีความเหลืออยู่และยังมีการนำราษฎรที่ยังไม่ได้รับการประกันตัวในฐานะผู้เป็นแม่ ก็เข้าใจหัวอกแม่ทุกคนเช่นเดียวกัน และไม่อาจจะบังคับให้ ภาณุพงศ์ ยุติการเคลื่อนไหวในอนาคตได้ เพราะเจ้าตัวมีเหตุผลในการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ยังเด็กกระทั่งบรรลุนิติภาวะตัดสินใจเองได้ โดยเฉพาะการให้ประชาชนเข้าถึงสวัสดิการต่างๆอย่างเท่าเทียม
หากมีสิ่งที่พอจะขอกับบุตรชายได้หลังถูกปล่อยตัวครั้งนี้ ก็จะ "ขอให้แม่ได้พักบ้าง" หรือพักการเคลื่อนไหวสักระยะให้ได้อยู่ด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาตนเคียงข้างลูกมาโดยตลอด และพยายามรักษาสุขภาพและชีวิตไว้เพื่อเจอหน้าลูก และการอยู่ในเรือนจำครั้งนี้ยาวนานกว่า 5 เดือนมากกว่าครั้งก่อนๆ และแม่ก็อายุมากแล้ว
ยุพิน ได้กล่าวขอบคุณประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่ไม่ปล่อยให้ตนและลูกต่อสู้เพียงลำพัง พร้อมยืนยันว่ายังศรัทธามวลชนเสมอ และแม้ยกสถานะภาณุพงศ์ให้เป็นแกนนำราษฎร แต่ตนเองและเจ้าตัวรวมถึงคนอื่นๆก็ยืนยันมาตลอดว่า ทุกคนคือแกนนำ อย่างไรก็ตาม เห็นว่า ศาลคิดถูกแล้วที่ปล่อยตัวภาณุพงศ์ออกมา เพราะตนก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องถูกคุมขังหากบุตรชายตนไปฆ่าคนตายก็พร้อมที่จะยอมรับการถูกจองจำ แต่ ภาณุพงศ์และราษฎรมาต่อสู้ทางการเมือง สู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อความถูกต้องเป็นธรรมในสังคม
สำหร้บ ภาณุพงศ์ ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวตั้งแต่ประมาณ 12:00 น. กระทั่งเวลา 18:00 น. ก็ยังไม่ปรากฏว่านายภาณุพงศ์ถูกปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำ เนื่องจาก "หมายปล่อยตัว" จากศาล ส่งมาถึงเรือนจำพิเศษฯช้าและมีกระบวนการซึ่งต้องใช้เวลาในการปล่อยตัวตามขั้นตอน