นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวถึงกระแสข่าวการล้มดีลโควต้ารัฐมนตรีของพรรคของพรรคร่วมรัฐบาลว่า ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับภูมิใจไทยที่ยังตกลงกันไม่จบเป็นเรื่องภายในของทั้งสองพรรค แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์เจรจาได้ข้อยุติแล้ว และเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามนั้น 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ จะทำอย่างไร นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขออย่าพูดหรือคิดไปล่วงหน้า เพราะพรรคประชาธิปัตย์กับพลังประชารัฐได้พูดคุยกันมาสมควรแล้วเพราะทุกอย่างลงตัวและจบหมดแล้ว 

ส่วนเรื่องข้อเสนอแก้รัฐธรรมนูญ หากไม่เป็นไปตามข้อตกลง จะเป็นเหตุผลให้ดึงเวลาต่อไปเรื่อยๆ ตนเห็นว่าเมื่อพรรคพลังประชารัฐกำหนดเป็นนโยบายรัฐบาลแล้วก็จำเป็นต้องปฏิบัติ แล้วรายละเอียดเรื่องเงื่อนเวลาอื่นๆ เป็นเรื่องที่จะต้องคุยกันต่อไป แต่จะทำภายในกี่เดือน ค่อยคุยกันในรายละเอียด แต่หลักใหญ่คิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ได้คุยกันในการร่วมรัฐบาลจบแล้ว ทั้งนี้ยังไม่กรอบในใจว่าจะแก้ให้เสร็จภายในกี่เดือน แต่เห็นว่าจะต้องมานั่งพูดคุยข้อสรุปร่วมกัน

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกรณีการประกาศลาออกของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคและอดีต ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากยึดสิ่งที่เคยประกาศไว้กับประชาชน ว่า นายอภิสิทธิ์ ได้แจ้งให้ตนทราบ ซึ่งตนได้พยายามยับยั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่สำเร็จ เมื่อนายอภิสิทธิ์ตัดสินใจแล้วก็ต้องเคารพ ทั้งนี้คนที่ยังอยู่ก็ต้องมีหน้าที่ ปฏิบัติภารกิจนำพาพรรคก้าวไปข้างหน้าต่อไป ส่วนคำว่าสัญญาประชาคมสำคัญกว่ามติพรรค

นายจุรินทร์กล่าวว่าเป็นความเห็นของนายอภิสิทธิ์ที่พรรคก็เคารพ แต่ในส่วนตัวของนายจุรินทร์ ยืนยันต้องปฏิบัติตามมติพรรค ส่วนการแก้ปัญหาภาพลักษณ์ของพรรค พรรคก็มีหน้าที่ที่จะต้องฟันฝ่าอุปสรรค์ต่างๆ ต้องร่วมมือร่วมใจที่จะเดินหน้าไปสู่การยอมรับจากประชาชนมากขึ้นในอนาคต ซึ่งถือเป็นภารกิจของกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ นายจุรินทร์ย้ำว่า ไม่ลำบากใจที่ภาพลักษณ์ของพรรคถูกมองในด้านลบ เพราะไม่เคยคิดว่าจะเป็นอย่างนั้น