ดิสนีย์เตรียมใช้หุ่นยนต์เป็นสตั๊นท์แมนแทนมนุษย์
ดิสนีย์กำลังพัฒนา 'สติ๊กแมนโปรเจกต์' ซึ่งเป็นหุ่นยนต์สตั๊นท์แมน ที่จะนำมาใช้ในการแสดงโลดโผนแทนมนุษย์ โดยเตรียมนำมาใช้แสดงในสวนสนุกและรีสอร์ตของดิสนีย์เร็ว ๆ นี้
ถึงแม้เทคโนโลยีภาพซีจีในอุตสาหกรรมความบันเทิงปัจจุบัน จะถูกพัฒนาให้ดูสมจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ล่าสุด เทคครันช์ เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีต่างประเทศ รายงานว่า บริษัทผู้สร้างสื่อบันเทิงและสวนสนุกรายใหญ่ของโลกอย่าง 'ดิสนีย์' เตรียมนำหุ่นยนต์เข้ามาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมบันเทิง โดยจะใช้เป็นสตันต์แมนในฉากโลดโผนแทนนักแสดงที่เป็นมนุษย์ เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดของการใช้ซีจี
โดยดิสนีย์ตั้งชื่อโครงการหุ่นยนต์นี้ว่า 'สติ๊กแมนโปรเจกต์ (Stickman Project)' เพื่อเน้นพัฒนาหุ่นยนต์ที่มีลักษณะคล้ายมนุษย์ให้เป็นสตันต์แมนที่ต้องเหาะเหินเดินอากาศโดยเฉพาะ และมีการนำเอาเทคโนโลยีเลเซอร์มาช่วยระบุพิกัด พร้อมมาตรวัดความเร็ว และเครื่องมือวัดการหมุนวนในตัวอีกด้วย โดยหุ่นยนต์สามารถกลับตัว และปรับตำแหน่งกลางอากาศได้ เหมือนการบินของซูเปอร์ฮีโรในภาพยนตร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดิสนีย์ ตั้งใจจะนำหุ่นยนต์เหล่านี้ มาใช้ในการแสดงเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ที่เข้าชมสวนสนุกและรีสอร์ตในเครือ แต่ดิสนีย์ยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะนำหุ่นยนต์สตั๊นท์แมนนี้ไปใช้ที่ส่วนสนุกใดบ้าง ต้องมารอติดตามกันต่อไปว่า เราจะได้เห็นหุ่นยนต์นี้แต่งชุดเป็นตัวละครจากพิกซาร์ หรือฮีโรจากมาร์เวล ไปอวดลีลาโลดโผนกลางอากาศครั้งแรกที่สวนสนุกใด
ชมพิพิธภัณฑ์ไทย ผ่านกูเกิล Arts and Culture ได้แล้ว
หลังจากเปิดตัวในปี 2011 Google Arts and Culture ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ในการชมศิลปะ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ให้กับผู้คนทั่วโลกได้รับชมได้ฟรีผ่านทางแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยล่าสุด กูเกิล ได้นำผลงานในพิพิธภัณฑ์ไทยมาเปิดให้ชมเป็นครั้งแรก นั่นคือนิทรรศการ 'ของขวัญแห่งมิตรภาพ Great and Good Friends' ซึ่งจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ โดยร่วมมือกับสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เพื่อจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ไทยและสหรัฐฯ มอบให้กันมากว่า 200 ปี
โดย Arts and Culture เป็นแพลตฟอร์มที่กูเกิลร่วมมือกับองค์กรไม่แสวงผลกำไรทั่วโลก และรวบรวมผลงานศิลปะจากกว่า 1,000 องค์กร และพิพิธภัณฑ์กว่า 1,500 แห่งทั่วโลก มาไว้บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อช่วยให้ผู้เสพงานศิลปะได้รับชมผลงานชื่อดัง และร่วมสำรวจพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงได้เพียงปลายนิ้ว
"ทีมงานในกูเกิลที่เป็นเพื่อนกัน รู้สึกว่าพื้นที่ศิลปะบนอินเทอร์เน็ตมีไม่เพียงพอ และตอนนั้นเป็นช่วงก่อนที่จะเข้าสู่ยุคแห่งการเซลฟี รูปภาพศิลปะบนอินเทอร์เน็ตจึงค่อนข้างเบลอ มีความละเอียดต่ำ หรือมีตราประทับ ทีมกูเกิลจึงตัดสินใจไปพิพิธภัณฑ์ชื่อดังระดับโลก และยื่นข้อเสนอว่า เราต้องการช่วยทำดิจิทัลแพลตฟอร์มให้พิพิธภัณฑ์เหล่านี้ โดยภัณฑารักษ์สามารถเล่าเรื่องของงานแต่ละชิ้นผ่านโลกออนไลน์ได้ มีที่ไหนอยากทำงานร่วมกันไหม และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของแพลตฟอร์มนี้"
นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าว ยังเปิดให้ผู้ใช้งานรับชมพิพิธภัณฑ์ในแบบวีอาร์ และกูเกิลสตรีตวิวแบบเห็นภาพ 360 องศา โดยสามารถใช้อุปกรณ์กูเกิลการ์ดบอร์ด (Google Cardboard) หรืออุปกรณ์แว่นวีอาร์อื่น ๆ ที่รองรับ คุณผู้ชมที่สนใจอยากเข้าไปชมพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ หรือท่องโลกศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถเข้าไปใช้บริการ Google Arts and Culture ได้แล้ว ทั้งทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอส ซึ่งขณะนี้กูเกิลกำลังร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ในไทยอีกกว่า 9 แห่ง คาดว่าจะเปิดให้ได้รับชมผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวเร็ว ๆ นี้
Source
YouTube/Disney Research Hub