นครรัฐวาติกัน ไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวคริสต์นิกายคาทอลิกทั่วโลก หากยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ และจุดหมายการท่องเที่ยวของนักเดินทาง คุณนิติธร สุรบัณฑิตย์ จะพาไปสัมผัสประสบการณ์เทคนิคการเที่ยววาติกันใน 1 วันอย่างประหยัด คุ้มค่า และครบถ้วน

คุณนิติธร สุรบัณฑิตย์ ผู้สื่อข่าวอาวุโสสถานีโทรทัศน์ วอยซ์ ทีวี นำประสบการณ์เดินทางไปศึกษาดูงานความเป็นไปได้ทางเศรษฐกิจ และสังคม พร้อมรับฟังการแถลงผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ของธนาคารออมสิน จากผู้บริหารธนาคาร ที่สาธารณรัฐอิตาลี พร้อมสื่อมวลชนทุกแขนง เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยโอกาสนี้ได้ไปเยือนนครรัฐวาติกัน นครรัฐที่เล็กที่สุด ประชากรน้อยที่สุด แต่เป็นศูนย์รวมความมั่งคั่งทางจิตวิญญาณ

นครรัฐวาติกัน นับเป็นรัฐเอกราชที่มีอธิปไตยเป็นของตนเอง เป็นที่ประทับของสมเด็จพระสันตปาปาประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก และมีองค์กรบริหารงานทางศาสนาภายใน วาติกันนับได้ว่าเป็นแหล่งรวมศิลปวัฒนธรรมตั้งแต่ยุคโบราณ จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะผลงานก้องโลกอย่างSchool of Athens ของ Raphael หรือ The Creation of Adam ของ Angleo ตลอดจนที่ฝังพระศพ และหอสมุดเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นต้น ทำให้ที่นี่เป็นดินแดนที่ได้รับการปกป้องเป็นพิเศษในสถานการณ์ขัดกันทางอาวุธ

จำนวนนักท่องเที่ยว 5 ล้านคนต่อปี และกรุ๊ปทัวร์มหาศาลในแต่ละวัน ทำให้นักท่องเที่ยวต้องใช้เวลาอย่างต่ำ 1 ชั่วโมงครึ่งในการรอคิวเพื่อตรวจสัมภาระ คุณนิติธร ได้ทดลองโปรแกรมเที่ยวด้วยตนเองในวาติกันใน 1 วัน และพบว่า สามารถแก้ปัญหาการเบียดเสียด ไม่พลาดชมทุกศิลปวัตถุ และสิ่งล้ำค่า ที่สำคัญยังไม่ได้ลิ้มรสอาหารเช้าในดินแดนแห่งนี้ด้วย

เริ่มต้นจากการคิดมุมกลับครับ คุณนิติธร จะไม่เริ่มต้นการเยี่ยมชมวาติกันจากทางด้านหน้า นั่นก็คือ จุดต่อคิวหน้ามหาวิหารนักบุญเปรโตล หรือมหาวิหารเซนปีเตอร์ แต่จะใช้วิธีเข้าจากทางด้านหลัง โปรแกรมนี้คุณผู้ชมต้องเข้าไปยังเว็บไซต์พิพิธภัณฑ์ของวาติกันก่อน (http://www.museivaticani.va) โดยจะมีโปรแกรมให้คุณผู้ชมเลือก ขอแนะนำให้เลือกโปรแกรมเที่ยวพิพิธภัณฑ์ มหาวิหาร และอาหารเช้า ที่สำคัญต้องเลือกเป็นรอบแรกเท่านั้นนะครับ

โปรแกรมนี้นักท่องเที่ยวต้องมาถึงบริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์ไม่เกิน 7 โมงครึ่ง ทางเจ้าหน้าที่จะทยอยเรียกตามคิวที่ลงทะเบียนไว้ ครั้งที่ผ่านมาคุณนิติธร ได้คิว 8 โมงเช้าครับ เมื่อมาถึงจะสามารถเข้าไปตรวจสัมภาระโดยไม่ต้องรอคิว ลำดับต่อไปเราจะได้ลิ้มรสกับอาหารเช้า ซึ่งไม่ใช่แซนวิซ ขนมปัง หรือสปาเกตตี้กล่อง แต่เป็นอาหารบุฟเฟต์อลังการ ไม่ต้องต่อคิว หรือเบียดเสียด เพราะเจ้าหน้าที่ได้บริหารเวลาจัดการอย่างลงตัว เราก็จะได้ทานมื้อเช้าแสนอร่อย โดยมีวิวเป็นสวน และหมู่อาคารในวาติกัน

จากนั้นก็ถึงเวลาตะลุยพิพิธภัณฑ์อย่างสบายใจ และไม่ต้องรีบร้อน ที่สำคัญจะไม่มีคณะทัวร์กรุ๊ปใหญ่มาเบียดเสียด หรือทำให้เราเสียอรรถรส นี่คือข้อดีของการจองทัวร์รอบเช้าครับ /ในพิพิธภัณฑ์เราจะได้พบกับ วัตถุล้ำค่ามากมายทางศาสนา ภาพวาดก้องโลก หรือของสะสมของสมเด็จพระสันตปาปา /ไฮไลท์สำคัญที่ต้องไม่พลาดคือห้องราฟาเอล เป็นห้องชุดสี่ห้องรวบรวมจิตรกรรมฝาผนังที่เขียนโดยราฟาเอลและผู้ช่วย ที่ถือกันว่าเป็นงานชิ้นเอกของศิลปะเรอเนซองส์ในกรุงโรม

หนึ่งในนั้นคือSchool of Athens ของ Raphaelงานชิ้นเอกของราฟาเอลและเป็นงานที่เป็นงานที่เพียบพร้อมไปด้วยลักษณะการเขียนภาพแบบเรอเนซองส์ชั้นสูง โดยเป็นภาพนักปรัชญา นักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ นักคิด และบุคคลสำคัญอีกมากมายในยุคกรีก เช่นเพลโต อริสโตเติลเป็นต้น ท่าทางของบุคคลแสดงถึงหลักการและแนวคิดของแต่ละบุคคลเอาไว้

เมื่อชมพิพิธภัณฑ์เสร็จสิ้น สถานที่ต่อไปคือ มหาวิหารเซนปีเตอร์ แต่ข้อดีประการสำคัญของโปรแกรม 1 วัน คือ เราไม่ต้องไปต่อแถวด้านหน้าใหม่ แต่จะใช้เส้นทางลัดผ่านโบสถ์Sistine นับว่าเป็นทางลัดที่คุ้มค่า เพราะโบสถ์นี้เป็นสถานที่สำคัญ หนึ่งในนั้นคือ การรองรับพิธีคัดเลือกสมเด็จพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ เหนือศรีษะของนักท่องเที่ยวก็ คือ ภาพวาดชื่อก้องโลกอย่างThe Creation of Adam ของไมเคิล แองเจโล เป็นภาพที่พระเยซูเอื้อมนิ้วจะไปสัมผัสกับอดัม ห้องนี้ไม่สามารถถ่ายรูปได้นะครับ

ทางลัดยังไม่จบแค่นี้ครับ ตรงนี้เราสามารถเชื่อมต่อไปยัง มหาวิหารเซนปีเตอร์ ได้เลย และสามารถขึ้นยังไปจุดสูงสุดของโดมได้โดยใช้ลิฟต์ และบันไดเวียน อย่างที่เห็นในภาพคือจุดที่คุณนิติธรไปยืนอยู่ เราจะเห็นลานด้านหน้ามหาวิหาร นักท่องเที่ยว และรอบรั้วของวาติกัน ตลอดจนกรุงโรมทั้งเมือง จากนั้นเราจึงลงมาเคารพ และเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆภายในมหาวิหารเซนปอนด์ มีปีเอตะหรือรูปปั้นพระแม่มารีย์ประคองร่างพระเยซูที่เพิ่งอัญเชิญลงจากกางเขน และด้านล่างมีสถานที่ฝังพระศพของสมเด็จพระสันตปาปาแต่ละพระองค์

จากนั้นเมื่อเสร็จพิธี และการเยี่ยมชม เราจึงออกมาถ่ายรูป และชมวิวลานด้านหน้ามหาวิหาร จุดนี้จะเห็นนักท่องเที่ยวยืนออต่อคิวกันแน่นขนัด แต่คุณนิติธร ขอแนะนำไฮไลท์สำคัญที่ต้องไม่พลาด คือ การรอคอยการโบกพระหัตถ์ของสมเด็จพระสันตปาปา โดยให้หันหน้าเข้ามหาวิหาร มองไปตึกสูงด้านขวา ที่มีหน้าต่างสีแสด จุดนั้นคือ ห้องทรงงาน และห้องบรรทมของพระองค์ ในบางวัน พระองค์จะเสด็จออกมา และโบกพระหัตถ์ทักทายประชาชน

เที่ยว 'วาติกัน' ฉบับ 1 Day trip สนนราคาไม่แพงครับ ไม่เกิน 1600 บาทไทย แต่ใช้เวลาได้เกือบทั้งวัน นอกจากจะได้ชมศาสนาสถาน โบราณ และศิลปวัตถุ ตลอดจนลิ้มลองอาหารเช้าในแบบฉบับวาติกัน ยังสามารถเดินชมได้อย่างสะดวกสบาย และเป็นวิวทิวทัศน์ในแบบที่คุณไม่ควรพลาด