ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - มัสก์ เปลี่ยนชื่อยาน 'บิ๊กฟอลคอน' เป็น 'สตาร์ชิป' - Short Clip
World Trend - นาซารับสมัคร 'ผอ. การบิน' ช่วยจัดการภารกิจอวกาศ - Short Clip
World Trend - เฟซบุ๊กทุ่ม 33,000 ลบ. สร้างศูนย์ข้อมูลในสิงคโปร์ - Short Clip
World Trend - 'ยูทูบเบอร์' ด้านความงามถูกจ้างให้รีวิวสินค้าโจมตีคู่แข่ง - Short Clip
World Trend - โตโยต้าเตรียมลงทุน 500 ล้านดอลลาร์กับอูเบอร์ - Short Clip
World Trend - BNK48 เตรียมประชันแข่งอีสปอร์ตครั้งแรก - Short Clip
World Trend - 'เน็ตฟลิกซ์' คู่แข่งใหญ่ของบริการสตรีมมิงจากดิสนีย์ - Short Clip
World Trend - เปิด 'มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์' สุดยิ่งใหญ่ - Short Clip
World Trend - องค์การอวกาศยุโรปเผยแผนที่ทางช้างเผือกโดยละเอียด - Short Clip
World Trend - เฟซบุ๊กปิดดีลธุรกิจครั้งใหญ่ด้าน 'การถ่ายทอดสดกีฬา' - Short Clip
World Trend - 'มาร์เวล เอ็กซ์พีเรียนซ์' ความบันเทิงเชิงเทคโนโลยี - Short Clip
World Trend - ซัมซุงปล่อยคลิปเผยจุดเด่น Galaxy Note 9 - Short Clip
World Trend - 'Top Gun : Maverick' ถูกเลื่อนฉายไปเป็นปี 2020 - Short Clip
World Trend - 'สตรีมเมอร์จีน' กับอิสรภาพออนไลน์ที่มีข้อจำกัด - Short Clip
World Trend - สตาร์ตอัปแฟชั่นเตรียมใช้ AI จับเทรนด์เสื้อผ้า - Short Clip
World Trend - MIT พัฒนาหุ่นยนต์หยิบจับและจัดเรียงสิ่งของได้ - Short Clip
World Trend - ดาวเทียม TESS เผยภาพแรกจากอวกาศ - Short Clip
World Trend - MIT คิดวิธีสื่อสารระหว่างเรือดำน้ำและเครื่องบินสำเร็จ - Short Clip
World Trend - แคริงปรับอายุขั้นต่ำนางแบบเป็น 18 ปี - Short Clip
'ขาดการศึกษานโยบาย' คือข้อผิดพลาดที่ซ่อนอยู่ใน 'บัตรคนจน'
World Trend - 'ซิเนม่าโอเอซิส' พื้นที่เพื่อคนรักหนัง - Short Clip
Mar 29, 2018 09:24

หลายคนเคยได้ยินชื่อหนัง 'เชคสเปียร์ต้องตาย' มาแล้ว จากการที่หนังเรื่องนี้ถูกพิจารณาไม่ให้ฉายในประเทศไทย และยังคงมีการต่อสู้คดีในชั้นศาล ซึ่งข้อจำกัดด้านการนำเสนอผลงานศิลปะเช่นนี้ก็ทำให้ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างเลือกที่จะเปิดพื้นที่สำหรับงานศิลปะขึ้นเอง

ต้องเกริ่นก่อนว่า 'เชคสเปียร์ต้องตาย' คืออะไร 'เชคสเปียร์ต้องตาย' เป็นหนังที่หลัก ๆ แล้วดัfแปลงจากโครงเรื่องและตัวละคร 'แม็คเบ็ธ…ผู้ทรยศ' ของ 'วิลเลียม เชกสเปียร์' แต่ก็มีเนื้อหาอ้างอิงถึงเหตุการณ์การเมืองไทยหลายครั้งด้วย ทำให้ถูกตัดสินให้ได้รับเรต 'ห' หรือ ห้ามเผยแพร่ในประเทศไทย เนื่องจากอาจทำให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนในชาติ

ทีนี้ พอผลงานไม่ได้ฉาย เลยเกิดเป็นไอเดียให้ คุณสมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ ผู้เขียนบทและกำกับ และคุณมานิต ศรีวานิชภูมิ ผู้อำนวยการสร้าง ซึ่งก็เป็นช่างภาพมือรางวัล และนักเขียน หันมาเปิดพื้นที่สำหรับศิลปะด้วยตัวเองเลย ในซอยสุขุมวิท 43 คือตั้งเป็นมูลนิธิ มีทั้งโรงหนังและแกลเลอรี เปิดฉายหนังไทยนอกกระแสหลายเรื่อง และรับจัดแสดงงานศิลปะอื่น ๆ ด้วย

ไปฟังเสียงผู้ก่อตั้งสักหน่อย คุณอิ๋ง พูดถึงว่า ทำแบบนี้มันไม่ได้อะไรคืนหรอก ในเชิงธุรกิจ แต่ทำไปทำไม ไปฟังกันค่ะ

น่าสนใจมากเรื่องทำแล้วไม่หวังกำไร คือจริง ๆ อุตสาหกรรมหนังไทยตอนนี้มันหวังกำไรยากอยู่แล้ว ทั้งคนทำหนัง ค่ายหนัง และโรงหนัง ส่วนหนึ่งก็ผู้บริโภค ผู้ชม ก็เลือกชม พอเลือกชม คนสร้างก็มองแคบลง มีแต่หนังตลก หนังผี กลายเป็นวัฏจักร

สำหรับที่ซีเนม่าโอเอซิสนี่ นอกจากการเข้าไปชมแล้ว มีระบบสนับสนุนอย่างหนึ่งที่เป็นแพทเทิร์นคล้ายของเมืองนอกด้วย เพราะเป็นมูลนิธิ ไปฟังจากคุณมานิตกันค่ะ ว่าคือระบบอะไร

ได้ยินแบบนี้แล้ว เชื่อว่า 'ซีเนม่าโอเอซิส' รวมถึง 'แกลเลอรี่โอเอซิส' จะเป็นทางเลือกอีกทางให้กับผู้ผลิตและผู้เสพผลงาน ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 43 เข้าจากปากซอยไปไม่ลึกเลย ติดตามข่าวสารและรอบฉายได้ที่เฟซบุ๊ก Cinema Oasis และเว็บไซต์ http://www.cinemaoasis.com



Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog