ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - โซนี่เปิดตัวหูฟังไร้สายใหม่ - Short Clip
World Trend - แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนใหม่รองรับ 2 ซิม - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นคิดค้น ‘ร่มโดรนกันแดด’ - Short Clip
World Trend - นิวซีแลนด์ผ่านกฎหมายห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้าน - Short Clip
World Trend - อังกฤษพบสถิติโดรนเสี่ยงอุบัติเหตุเพิ่ม 3 เท่า - Short Clip
World Trend - ฟูจิฟิล์มเปิดตัวกล้องมีเดียมฟอร์แมตใหม่ - Short Clip
World Trend - งานวิจัยชี้ 'บิตคอยน์' เป็นหนึ่งในปัจจัยโลกร้อน - Short Clip
World Trend - ​'กวางนาระ' ทำร้ายนักท่องเที่ยวเป็นประวัติการณ์ - Short Clip
World Trend - ซัมซุงปล่อยทีเซอร์ใหม่ Note 10 - Short Clip
World Trend - อัตราเกิดใน 'ญี่ปุ่น' ต่ำเป็นประวัติการณ์ - Short Clip
World Trend - อาลีบาบาขึ้นแท่นแบรนด์มูลค่าสูงสุดในจีน - FULL EP.
World Trend - VSCO ทำรายได้มหาศาล แม้ไม่พึ่งโฆษณา - Short Clip
World Trend - เด็กเกาหลีใต้อยากเป็นยูทูบเบอร์มากขึ้น - Short Clip
World Trend - Oppo Reno มาพร้อมกล้องซูม 10 เท่า - Short Clip
World Trend - โซนี่เปิดตัวกล้องจิ๋ว RX0 II พร้อมจอพับได้ - Short Clip
World Trend - Gravitymaster รุ่นใหม่จะวางขายเมษายนนี้ - Short Clip
อิตาลีจัดแคมเปญอนุรักษ์ทรัฟเฟิล
World Trend - ผลทดสอบชี้ แบตไอโฟนหมดไวกว่าที่โฆษณา - Short Clip
World Trend - Sony Xperia 1 หน้าจอยาวพิเศษสำหรับดูหนัง - Short Clip
World Trend - อีคอมเมิร์ซ​จีนกระตุ้นเทรนด์ฮิตนางแบบต่างชาติ - Short Clip
World Trend - ญี่ปุ่นห้ามคนเมาใช้โดรน - Short Clip
Jun 18, 2019 05:47

สมาร์ตโฟนอาจเป็นสาเหตุกระดูกผิดรูป

สมาร์ตโฟนกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่เราขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องมีสมาร์ตโฟนติดตัว ใช้นิ้วพิมพ์ข้อความ และสายตาจ้องหน้าจอตลอดเวลา ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าการทำพฤติกรรมเหล่านี้ ติดต่อกันหลายปี ตั้งแต่อายุยังน้อย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนรุ่นใหม่มีกระดูกที่ผิดรูปมากขึ้น โดย ดอกเตอร์ เดวิด ชาฮาร์ จากมหาวิทยาลัย The Sunshine Coast ในรัฐควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลีย พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กะโหลกด้านหลังของคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 18-30 ปี จำนวนหนึ่ง มีลักษณะนูนขึ้นมาประมาณ 10 มิลลิเมตร ซึ่งคนทั่วไปควรจะนูนออกมาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร  

แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการใช้สมาร์ตโฟนเป็นสาเหตุที่ทำให้กะโหลกด้านหลังนูนออกมามากกว่าปกติ แต่ดอกเตอร์ชาฮาร์อธิบายว่าศีรษะมนุษย์มีน้ำหนักประมาณ 4.5 กิโลกรัม ซึ่งการก้มศีรษะเพื่อจ้องหน้าจอสมาร์ตโฟนตลอดเวลา สร้างภาระให้กับกล้ามเนื้อและกระดูกคอที่เชื่อมอยู่กับกะโหลก เมื่อร่างกายส่วนนี้ รับน้ำหนักที่เกินความจำเป็นติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงมีความเป็นไปได้ว่าร่างกายมนุษย์จึงปรับตัวด้วยการจัดวางกระดูกใหม่ เพื่อถ่ายน้ำหนักลงไปยังพื้นที่อื่นเพื่อให้เกิดสมดุล

อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่ากะโหลกด้านหลังที่นูนออกมาประมาณ 10 มิลลิเมตร จะมีผลเสียด้านใดต่อสุขภาพ แต่หากคนรุ่นใหม่ยังคงมีพฤติกรรมการใช้สมาร์ตโฟนแบบเดิม ๆ อาจจะทำให้กระดูกผิดรูปร่างมากกว่าเดิม และอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณต้นคอในบางกรณี ซึ่งหากใครมีอาการดังกล่าว ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สมาร์ตโฟนให้น้อยลงกว่าเดิม


ญี่ปุ่นห้ามคนเมาใช้โดรน

โดรนกลายเป็นแกดเจ็ตที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย แต่การควบคุมโดรนก็คล้ายคลึงกับการขับขี่รถยนต์ นั่นคือผู้ควบคุมต้องผ่านการฝึกฝน มีประสบการณ์ และมีความรับผิดชอบ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุอาจจะสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินหรือทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ รัฐสภาญี่ปุ่นจึงได้ออกกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้โดรน ด้วยการห้ามคนที่มีอาการมึนเมาใช้โดรน ซึ่งกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นมองว่าผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วใช้โดรน มีอันตรายไม่ต่างจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถยนต์

ในกฎหมายระบุว่าหากผู้ใดถูกจับได้ว่าดื่มแอลกอฮอล์ แล้วควบคุมโดรนที่มีน้ำหนักมากกว่า 200 กรัม ขึ้นบิน มีโทษปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 300,000 เยน หรือประมาณ 87,000 บาท และยังมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปีด้วย  

ญี่ปุ่นออกกฎหมายควบคุมการใช้โดรนอย่างเข้มงวดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งกฎห้ามบินโดรนเกินความสูง 150 เมตร, ห้ามบินโดนใกล้สนามบินหรือแหล่งชุมชน, ห้ามบินโดรนในเวลากลางคืน และผู้ควบคุมจะต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นโดรนของตัวเองตลอดเวลาที่นำโดรนขึ้นบิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายและล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น


นิคอนจะเปิดตัวกล้องมิร์เรอร์เลสรุ่นกลาง

หลังจากที่นิคอนได้เปิดตัวกล้องมิร์เรอร์เลสระดับมืออาชีพ รุ่น Z7 และ Z6 ไปเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่าในปีนี้ นิคอนเตรียมที่จะเปิดตัวกล้องมิร์เรอร์เลสรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกล้องระดับกลาง และมีราคาที่ถูกลงมา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยกล้องรุ่นใหม่นี้จะมีราคาบอดีไม่เกิน 100,000 เยน หรือไม่เกิน 29,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่ารุ่น Z6 ถึง 1 เท่าตัว และถูกกว่ารุ่น Z7 ถึง 3 เท่า 

กล้องของนิคอนมีภาพลักษณ์เป็นกล้องสำหรับมืออาชีพหรือผู้ที่จริงจังเรื่องการถ่ายรูป ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปมองข้าม โดยผลสำรวจของ BCN บริษัทสำรวจการค้าปลีกในญี่ปุ่นในช่วงเดือนมีนาคมและเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าตลาดกล้องประเภทฟูลเฟรมมิร์เรอร์เลส นิคอน มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ ตามหลังโซนี่ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 44 เปอร์เซ็นต์ และ แคนนอน ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 26 เปอร์เซ็นต์ นิคอนจึงมีแผนที่จะขยายตลาดให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานให้ทั่วถึง ด้วยการออกกล้องรุ่นใหม่ที่มีราคาถูกลงเพื่อดึงดูดคนที่เริ่มถ่ายรูปให้หันมาใช้กล้องของนิคอนมากขึ้น  


Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog