DJI เปิดตัวโดรนถ่ายหนังรุ่นใหม่
DJI ผู้ผลิตโดรนจากประเทศจีนเปิดตัว Storm โดรนถ่ายภาพยนตร์รุ่นใหม่ล่าสุด และมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท สามารถติดตั้งกล้องถ่ายภาพยนตร์พร้อมเลนส์น้ำหนักสูงสุด 18.5 กิโลกรัม พร้อมด้วยระบบกันภาพสั่นไหว และระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติที่ถูกออกแบบมาสำหรับกล้องถ่ายภาพยนตร์โดยเฉพาะ ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้องผ่านรีโมตคอนโทรลได้อย่างอิสระ ทำให้ถ่ายภาพได้หลากหลายรูปแบบ ส่วนการควบคุมโดรน สามารถทำได้ผ่านทั้งระบบอัตโนมัติและรีโมตคอนโทรล
DJI Storm เป็นโดรนขนาดใหญ่ ติดตั้งใบพัด 8 ตัว บินได้ความเร็วสูงสุด 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบินได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 15 นาที ส่วนราคายังไม่เป็นที่เปิดเผย ผู้ที่สนใจอยากได้ DJI Storm ไปใช้สำหรับงานถ่ายภาพยนตร์หรือถ่ายโฆษณา สามารถติดต่อ DJI เพื่อเช่าใช้งานได้ แต่เนื่องจากการควบคุมโดรนรุ่นนี้มีความซับซ้อนกว่าโดรนทั่วไป DJI จึงเตรียมทีมงานที่ผ่านการฝึกมาอย่างดีพร้อมรถตู้สำหรับการเคลื่อนย้าย รวมอยู่ในค่าบริการเช่าโดรนด้วย
โดรนเข้ามามีบทบาทในการถ่ายภาพยนตร์และถ่ายโฆษณาอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพราะทำให้การถ่ายภาพจากท้องฟ้าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้ การถ่ายภาพจากท้องฟ้าจำเป็นต้องใช้บริการของเฮลิคอปเตอร์เท่านั้น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก DJI จึงได้พัฒนาโดรนสำหรับการถ่ายภาพยนตร์โดยเฉพาะ ซึ่งมีระบบการทำงานที่ซับซ้อนกว่าโดรนทั่วไป เพราะต้องเชื่อมต่อกับกล้องถ่ายภาพยนตร์และทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ
VSCO ทำรายได้มหาศาล แม้ไม่พึ่งโฆษณา
ผู้บริหารของ VSCO แอปพลิเคชันตกแต่งรูปภาพยอดนิยม เปิดเผยว่าบริษัทมีรายได้ 40 ล้านดอลลาร์ ในปี 2018 ซึ่งเป็นรายได้จากค่าสมัครสมาชิกรายปี 20 ดอลลาร์ และปีที่ผ่านมาก็มีผู้สมัครสมาชิกมากถึง 20 ล้านคน ทำให้บริษัทมีรายได้ตลอดปี 40 ล้านดอลลาร์ โดยที่ไม่ต้องพึ่งการลงโฆษณา และในปีนี้ ทางบริษัทคาดว่าจะมีผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นมากกว่าปีที่แล้วถึง 1 เท่าตัว
VSCO เป็นแอปพลิเคชันที่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี ซึ่งเป็นที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้งานที่ต้องการคุมโทนสีของภาพที่ตัวเองโพสต์ แต่มีฟิลเตอร์ตกแต่งภาพพิเศษบางตัวที่ต้องสมัครเป็นสมาชิกเท่านั้นจึงจะใช้งานได้ ซึ่งแนวคิดการทำธุรกิจของ VSCO คือโฟกัสไปที่การทำฟิลเตอร์ตกแต่งภาพที่ใช้งานง่ายและถูกใจสมาชิก ซึ่งหากฟิลเตอร์ของแอปฯ มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากแอปฯ ตกแต่งรูปอื่น ๆ ที่มีอยู่มากมาย ก็ทำให้สมาชิกรู้สึกคุ้มค่าที่ต้องจ่ายเงิน โดยเฉพาะผู้ที่โพสต์รูปภาพลงโซเชียลมีเดียอยู่เป็นประจำ เพราะหากเทียบค่าสมาชิกรายปี 20 ดอลลาร์ หรือประมาณ 640 บาท ก็ตกแค่วันละไม่ถึง 2 บาท
Galaxy Note 10 อาจไร้ปุ่มและช่องเสียบหูฟัง
GSM Arena เว็บไซต์ข่าวสมาร์ตโฟนรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับซัมซุงว่า Galaxy Note 10 สมาร์ตโฟนแฟล็กชิปที่มีหน้าจอใหญ่และมาพร้อมกับปากกา S Pen ที่คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนสิงหาคมนี้ อาจะไม่มีปุ่มกดใด ๆ บนตัวเครื่อง แต่จะใช้ระบบสัมผัสแบบรองรับแรงกด บริเวณด้านข้างของตัวเครื่อง เพื่อใช้ควบคุมการเปิดปิดสมาร์ตโฟน และควบคุมระดับเสียง โดยฟีเจอร์ลักษณะเดียวกันนี้ เคยถูกใช้กับสมาร์ตโฟนของ HTC รุ่น U12 Plus ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น ซัมซุงอาจจะทำสมาร์ตโฟนไร้ปุ่มกดที่มีประสิทธิภาพดีกว่า
ในรายงานยังระบุด้วยว่า Galaxy Note 10 จะเป็นสมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิปรุ่นแรกของซัมซุงที่ไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรมาให้ด้วย ทำให้ผู้ใช้งานต้องใช้หูฟังไร้สายทดแทน ซึ่งก็อาจจะไม่เป็นที่ถูกใจสำหรับผู้ใช้งานบางส่วนที่ยังชื่นชอบการใช้หูฟังมีสายแบบดั้งเดิม และไม่ต้องการเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อหูฟังไร้สายตัวใหม่ แต่การตัดช่องเสียบหูฟังออกจะช่วยให้ตัวเครื่องมีพื้นที่ในการใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งก็มีรายงานด้วยว่า Galaxy Note 10 อาจจะใช้แบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ 4,300 มิลลิแอมป์ ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาสมาร์ตโฟนของซัมซุง และมีความเร็วในการชาร์จสูงถึง 45 วัตต์