แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์จะก้าวหน้า แต่โรคที่ป้องกันได้ด้วยวัคซีนขั้นพื้นฐานก็สามารถกลับมาระบาดได้อีกครั้ง โดยล่าสุด องค์การอนามัยโลกออกมาเตือนว่า ในปีที่แล้ว ยุโรปมีผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 400 เปอร์เซ็นต์
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยข้อมูลว่าปีที่แล้ว ในยุโรปมีผู้ป่วยโรคหัดเพิ่มขึ้น 400 เปอร์เซ็นต์ จากสาเหตุภูมิคุ้มกันถดถอย และปัญหาวัคซีนสำรองไม่เพียงพอ หลังจากที่เมื่อปี 2016 มีผู้ป่วยโรคหัดลดลงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาการหัดสามารถทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นได้ เช่น สมองอักเสบ และปอดบวม
ในปีที่แล้ว มีรายงานว่ายุโรปมีผู้ป่วยโรคหัดมากกว่า 20,000 คน โดยไม่ระบุสาเหตุการเกิดโรคที่แน่ชัด ซึ่งที่โรมาเนียมีผู้ป่วยใหม่มากที่สุดรวม 5,562 คน รองลงมาคือ อิตาลี และยูเครน ที่มีผู้ป่วยใหม่ 9,773 คน ใน 2 ประเทศ โดยรวมแล้วมีผู้เสียชีวิตในทวีปยุโรปทั้งหมด 35 คน
ด้านผู้อำนวยการของท้องถิ่นของ WHO ในยุโรป ระบุว่า การกำจัดโรคหัดและหัดเยอรมันให้หมดสิ้น ถือเป็นเป้าหมายหลักที่ทุกประเทศในยุโรปต้องร่วมมือกัน โดยความล้มเหลวระยะสั้นที่เกิดขึ้นไม่ควรมาทำลายพันธกิจนี้ เพราะจะช่วยให้คนรุ่นหลังไม่ต้องทรมานจากโรคร้ายเหล่านี้อีกต่อไป
สำหรับโรคหัดเป็นโรคติดเชื้อชนิดหนึ่ง ที่เกิดจากเชื้อไวรัส โดยในระยะแรกผู้ป่วยจะมีไข้สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และมีอาการไอ น้ำมูกไหลจากเยื่อจมูกอักเสบ และตาแดงจากเยื่อตาอักเสบ