รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 31 มีนาคม 2563
#กูสั่งให้มึงเลิกซื้ออาวุธ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ เหตุโลกออนไลน์ไม่ปลื้มกระแส ”กลาโหม” ชงวาระของบฯ รับเรือยกพลขึ้นบก ที่สั่งซื้อเมื่อปลายปีที่แล้ว
นักวิเคราะห์ Talking Thailand ถาม? ยังจำเป็นใช่ไหม “อ.หญิง” ขอเลื่อนก่อนได้ไหม ในอนาคตความมั่นคงไม่ได้อยู่ที่อาวุธ แต่สงครามไม่ใช่เรื่องต่อสู้ แต่จะอยู่ที่โรคภัยที่ไวรัสพัฒนาตัวเอง “อ.วิโรจน์” ชวนคิดถ้าไม่อยากให้กองทัพได้ของเล่นต้องปรับกองทัพ
หลังมีกระแสว่า ที่ประชุม ครม. มีวาระพิจารณาของกระทรวงกลาโหม ที่ขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการโครงการจัดหาเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ สนับสนุนการปฏิบัติการเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำ โดยในสัญญาการต่อเรือแอลพีดี ซึ่งเป็นเรือยกพลขึ้นบก 1 ลำ คาดว่าจะใช้งบฯกว่า 6,100 ล้านบาทนั้น
ทำให้นายประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ว่า “ทุก 1 หมื่นล้านบาทที่ซื้ออาวุธ คือ ทุก 1 หมื่นล้านบาทที่สามารถนำไปซื้ออาหารให้เด็ก ยาให้ผู้ป่วย และอุปกรณ์การแพทย์ให้หมอ นี่คือเหตุผลที่ทำไมงานวิจัยด้านสันติภาพ จึงเรียกการทุ่มงบประมาณของรัฐไปซื้ออาวุธ ว่าเป็น “ค.รุนแรงเชิงโครงสร้าง” (structural violence)
ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่า ทรรศนะส่วนตัวเห็นว่า “ไม่สมควรเลย” เพราะการระบาดของโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น มีสัดส่วนการระบาดไปยังต่างจังหวัดมากขึ้น // สิ่งที่รัฐบาลไม่อาจจะละเลย คือ ยกระดับศักยภาพทางการแพทย์ เพื่อให้ระบบสาธารณสุข มีเครื่องมือ และอุปกรณ์ที่เพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ลดอัตราการเสียชีวิต โดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจ, จำนวนเตียง, และเครื่องผลิตออกซิเจน
โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุเพิ่มเติมว่า หากตั้งสมมติฐานว่า เครื่องช่วยหายใจเครื่องหนึ่งมีราคาประมาณ 850,000 บาท / 6,000 เครื่อง ใช้งบทั้งสิ้น 5,100 ล้านบาท และเครื่องผลิตออกซิเจน เครื่องละ 40,000 บาท / 6,500 เครื่อง ใช้งบประมาณ 260 ล้านบาท / รวมทั้งสิ้น 5,360 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้แพงเลย กับการสร้างความมั่นคงทางด้านสาธารณสุข และทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่น
หากประชาชนจะร่วมกันสะท้อนความรู้สึกที่มีต่อการซื้ออาวุธของกลาโหม ผ่านแท็ก #กูสั่งให้มึงเลิกซื้ออาวุธ เพราะในสถานการณ์ที่ประเทศต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ และงบประมาณด้านสาธารณสุข เพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 โดยให้รัฐบาลได้ตระหนัก และรัฐบาลควรเอางบประมาณมาเยียวยาประชาชน เอางบมาพยุงเศรษฐกิจช่วยเอสเอ็มอี เอางบมาซื้ออุปกรณ์การแพทย์ เพิ่มศักยภาพด้านการสาธารณสุขเหมาะกว่าการซื้ออาวุธ
มีรายงานว่า พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม ได้ขอถอนเรื่องดังกล่าว ออกจากวาระประชุม ครม. หลังจากถูกวิจารณ์ ว่าขณะนี้ประเทศกำลังเผชิญการระบาดของโควิด-19 ต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมากในการแก้ปัญหา
ด้าน พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่าหัวข้อเรื่องเพื่อพิจารณาดังกล่าว เป็นเพียงชื่อหัวข้อเรื่องที่ใช้อ้างถึง เพื่อขออนุมัติให้กองทัพเรือดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโครงการเท่านั้น ไม่ได้เป็นการเสนอหัวข้อเรื่องเพื่อการขอจัดซื้อฯ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวแต่ประการใด และเท่าที่ทราบ ในวันนี้ก็ไม่ได้มีวาระประชุมในหัวข้อเรื่องนี้
นอกจากนี้ โครงการจัดหาเรือเอนกประสงค์ยกพลขึ้นบกฯ เป็นโครงการที่กองทัพเรือได้รับการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาลไปตั้งแต่ปีงบฯ ที่ผ่านมา หากจะดำเนินการส่วนที่เกี่ยวกับโครงการ จะต้องเสนอขอพิจารณา เป็นเรื่องที่เป็นรายละเอียดด้านอื่น อาทิ การดำเนินการที่เกี่ยวกับโครงการด้านการขออนุมัติเดินทางไปราชการต่างประเทศของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ, การขออนุมัติการเดินทางไปราชการของผู้ควบคุมงานและเจ้าหน้าที่ประจำสำนักงาน หรือเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับสิทธิกำลังพล ที่ต้องไปราชการในต่างประเทศเป็นระยะเวลานานตลอดจนเสร็จสิ้นโครงการ