รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 21 เมษายน 2563
รัฐบาลเคาะเงื่อนไข ช่วยประชาชน หลังถูกก่นด่า ให้ช่วยคุมไวรัส ทำงานที่บ้าน แต่ค่าไฟแพงหูฉี่ แถมจะคืนค่าไฟ ก็มีเงื่อนไขซับซ้อน ชนิดที่ประชาชนคำนวณเองไม่ได้ เดือดร้อนตั้งแต่รากหญ้า ยัน “คนดี”
3 การไฟฟ้ามีหนาว ถูกขุดผลประกอบการมี “เป็นหมื่นเป็นแสนล้าน” แต่ประชาชนกำลัง “แสนสาหัส”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงถึงมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า ในส่วนที่เป็นการเช่าหอพัก อพาร์ทเมนต์เพื่อให้ครอบคลุมว่า ได้ฟังจากทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน คณะกรรมการกำกับดูแลพลังงาน ซึ่งมีมาตรการเสนอขึ้นมาเพื่อลดค่าใช้ไฟฟ้าให้กับประชาชนทั่วไป แต่ก็ต้องเห็นใจในเรื่องของงบประมาณที่ทั้ง 3 หน่วยงานจำเป็นจะต้องใช้ในการบริหารต่อไปในอนาคต เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งรัฐบาลก็พยายามดูแลอย่างเต็มที่แล้ว การพูดจาอะไรต่างๆ ที่บิดเบือนไม่เกิดประโยชน์ให้ร้ายซึ่งกันและกัน บางทีก็เกิดปัญหาในการทำงาน ซึ่งจะทำให้การทำงานนั้นยากขึ้น ช้าขึ้นทำให้ส่งผลกระทบต่อโดยรวมทั้งสิ้น
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าที่ประชุม ครม. พิจารณามาตรการเยียวยาการลดภาระค่าไฟฟ้า ระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม วงเงิน 23,688 ล้านบาทว่า การช่วยเหลือประชาชน โดยบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าในกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้าน 22 ล้านราย หลังประชาชนร่วมดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยการทำงานที่บ้าน
ยืนยันว่าจะทำการบ้านพิจารณาหามาตรการมารองรับเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรอบคอบต่อไป ส่วนภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรม ที่ถูกกระทบก็เริ่มแสดงความเห็นผ่านสื่อ หรือแจ้งตรงมาอย่างไม่เป็นทางการ ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล ศึกษาปัญหา อุปสรรค ก่อนจะพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับมาตรการเยียวยาค่าไฟฟ้าที่ใช้ในครัวเรือน ที่ประกาศเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 63 มี 2 กลุ่ม คือ 1. มิเตอร์ไฟขนาดไม่เกิน 5 แอมป์ จะได้ใช้ฟรี 150 หน่วย หากเกินก็จะได้รับการดูแลให้ใช้ฟรีเช่นกัน เนื่องจากกลุ่มนี้จะใช้ไม่เกินปริมาณ 150 หน่วยเป็นปกติ และถือว่าใช้ไฟน้อย
2. มิเตอร์ไฟขนาดเกิน 5 แอมป์ จะมีข้อกำหนดคือ หากใช้มากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ แต่ไม่เกิน 800 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือนกุมภาพันธ์ แต่หากใช้เกิน 800 หน่วย แต่ไม่เกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือนกุมภาพันธ์ บวกกับส่วนที่เกิน ซึ่งได้รับส่วนลด 50% และหากใช้เกิน 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดือนกุมภาพันธ์ บวกกับส่วนเกิน ซึ่งได้รับส่วนลด 30% โดยการลดหย่อนดังกล่าวจะมีการคืนค่าใช้จ่ายให้ในรอบบิลถัดไป
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก เห็นมาตรการช่วยเหลือการลดค่าไฟให้ประชาชน กับข่าวความลำบากของประชาชนตอนนี้แล้ว เลยลองไปดูฐานะการเงินของหน่วยงานเกี่ยวกับไฟฟ้าของรัฐ ดูง่ายๆ ของกรุงเทพฯ ก่อนนะครับ
มีหน่วยงานหลักสองหน่วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ผลิตไฟ ขายให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) แล้วมาขายให้ประชาชน กฟผ. > กฟน. > ประชาชน โดยจากข้อมูลงบปี 2561 (งบปี 62 ของ กฟน.ยังไม่เห็นครับ)
กฟผ. กำไรเบ็ดเสร็จ 48,776 ล้านบาท กำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรร 284,223 ล้านบาท
กฟน. กำไรเบ็ดเสร็จ 9,025 ล้านบาท กำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรร 95,742 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า เป็นค่าใช้จ่ายของทุกครัวเรือน ในช่วงวิกฤตที่ทุกคนลำบาก ขอให้รัฐช่วยประชาชนอย่างเต็มกำลัง อย่าตัดไฟชาวบ้าน อย่าไปห่วงเรื่องกำไรขาดทุน ผมคิดว่านโยบายง่ายๆคือปีนี้ห้ามมีกำไร ต้องช่วยคนลำบากก่อนอย่าให้คำพูด "เราจะรอดไปด้วยกัน" เป็นแค่คำปลอบใจที่ประชาชนพูดกันเอง