ตำรวจสหรัฐฯ โพสต์คลิปหญิงไร้บ้านร้องโอเปร่าที่สถานีรถไฟใน 'แอลเอ' กลายเป็นไวรัลที่มีคนดูมากกว่า 6 แสนคนในทวิตเตอร์ บางคนชื่นชมที่ตำรวจ "หยุดฟังเสียงอันงดงาม" แต่บางคนก็บอกให้ตำรวจหยุดฟังเสียงของ 'ทุกคน' อย่างเท่าเทียมกัน
บัญชีทวิตเตอร์ @LAPDHQ ของสำนักงานตำรวจนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา หรือ 'แอลเอพีดี' เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะที่หญิงไร้บ้านคนหนึ่งร้องเพลงโอเปร่า โดยที่มือหนึ่งลากรถเข็น ส่วนอีกมือหนึ่งถือถุงสัมภาระพะรุงพะรัง และมีคนเข้าชมคลิปนี้มากกว่า 6 แสนคน นับจากวันที่โพสต์ครั้งแรกเมื่อ 27 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ โดยคนจำนวนมากที่ชมคลิปนี้เห็นตรงกันว่าเสียงร้องของผู้หญิงคนนี้ 'ไพเราะ' และ 'งดงาม'
ส่วนทวิตเตอร์ของแอลเอพีดีก็ระบุในทวิตเตอร์ด้วยว่า "คนกว่า 4 ล้านคน เรียก 'แอลเอ' ว่าบ้าน ที่นี่จึงมีเรื่องราวมากกว่า 4 ล้านเรื่อง เสียงกว่า 4 ล้านเสียง บางครั้งคุณจึงต้องหยุดฟัง เพื่อจะได้รับรู้ถึงบางสิ่งที่งดงาม"
ในตอนแรกผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายรายคิดว่าคลิปดังกล่าวคือการจัดฉากของรายการโชว์ความสามารถที่ต้องการเรียกร้องความสนใจจากสื่อสังคมออนไลน์ แต่มีผู้ที่อาศัยในแอลเอหลายรายยืนยันว่า เคยเจอกับหญิงไร้บ้านคนนี้บ่อยๆ ตามสถานีรถไฟเมโทรเรล
ส่วนผู้ใช้ทวิตเตอร์อีกจำนวนหนึ่งมองว่าสำนักงานตำรวจลอสแอนเจลิส หรือแอลเอพีดี พยายามสร้างภาพลักษณ์ที่ดีว่าใส่ใจประชาชน หลังจากก่อนหน้านี้มีผู้ตั้งคำถามว่าเพราะเหตุใดแอลเอพีดีจึงมอบเงินสนับสนุนเว็บไซต์ 'ไบรต์บาร์ต' สื่อที่ก่อตั้งโดยผู้ช่วยของกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้าข้างทรัมป์ แต่โจมตีฝ่ายค้านและเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนโจมตีผู้ที่เห็นต่างจากทรัมป์
ขณะที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์บางคนมองว่าการเผยแพร่คลิปดังกล่าวยิ่งกดทับปัญหาคนไร้บ้านในแอลเอ เพราะข้อความในทวิตเตอร์ทำให้ดูเหมือนว่า ความยากไร้นั้นเป็นสิ่งงดงาม ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมันคือปัญหาสังคมที่ต้องแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้คนตกงานกันมากขึ้น รวมถึงความเหลื่อมล้ำด้านรายได้ และอัตราค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น แต่รัฐบาลกลับปรับลดความช่วยเหลือด้านสวัสดิการต่างๆ ลงไป
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์ NPR เคยรายงานเมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า สถิติคนไร้บ้านในแอลเอเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสถิติเดิมเมื่อปี 2018 อยู่ที่ประมาณ 36,000 คน และเพิ่มเป็น 59,000 คนในปีนี้ จึงมีผู้เรียกร้องให้ตำรวจแอลเอ 'หยุดฟังเสียงของทุกคน' รวมถึงคนไร้บ้านที่เป็นคนผิวดำและผิวสีอื่นๆ ด้วย เพราะเคยมีปัญหาเรื่องตำรวจใช้กำลังเกินกว่าเหตุในการตรวจค้นชาวอเมริกันผิวสีเกิดขึ้นหลายกรณีแล้ว
ต่อมา สถานีโทรทัศน์เอบีซี 7 ได้ติดตามหาหญิงไร้บ้านคนดังกล่าว และรายงานว่าเธอมีชื่อว่า "เอมิลี่ ซามัวร์กา" วัย 52 ปี เป็นนักดนตรีชาวรัสเซียที่สามารถเล่นได้ทั้งไวโอลินและเปียโน ย้ายจากรัสเซียมายังสหรัฐฯ ขณะมีอายุได้ 24 ปี ในตอนแรกประกอบอาชีพครูสอนดนตรี แต่ระยะหลังมีปัญหาสุขภาพจนต้องหันไปทำงานอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อเลี้ยงชีพและจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่สามารถหางานประจำที่มีรายได้สม่ำเสมอได้ จึงถูกไล่ออกจากห้องเช่า
ซามัวร์การะบุว่าหลังจากถูกไล่ออกจากที่พัก เธอก็อาศัยอยู่ตามท้องถนน โดยใช้กล่องกระดาษกั้นพื้นที่ส่วนตัวเพื่อนอนพักในแต่ละคืน ส่วนตอนกลางวันก็หารายได้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยการร้องเพลงและสีไวโอลิน เพราะแม้ว่าจะไม่ได้เรียนขับร้องมาโดยตรง แต่ก็มีใจรักและมีความรู้เรื่องเพลงต่างๆ จนกระทั่งไวโอลินถูกขโมยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว จึงได้แต่ร้องเพลงเพียงอย่างเดียว พร้อมระบุว่า มีคนให้ความช่วยเหลืออื่นๆ อยู่ไม่น้อย แต่เธอไม่อยากเป็นภาระใคร
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวของเอบีซี 7 บอกเล่าให้ฟังว่าคลิปที่เธอร้องเพลงโอเปร่าได้รับความสนใจอย่างมาก และผู้ใช้ทวิตเตอร์บางรายแนะนำให้เธอไปสมัครแข่งขันในรายการเรียลลิตี้โชว์ America's Got Talent เพื่อจะได้แสดงความสามารถด้านดนตรีและเปลี่ยนชีวิตจากคนไร้บ้านไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น ซามัวร์กาก็บอกว่า เป็นคำแนะนำที่น่าสนใจ เพราะยังคงคาดหวังมาตลอดว่าจะได้กลับไปทำงานดนตรีอีกครั้ง
ทั้งนี้ ในคลิปที่ตำรวจแอลเอเผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ เป็นช่วงที่ซามัวร์กาอยู่ที่ชานชาลารถไฟเมโทรเรลของแอลเอ สายนอร์มังดี-วิลเชียร์ ส่วนเพลงที่ร้องคือ O mio babbino caro ของ 'จาโกโม ปุชชินี' นักประพันธ์เพลงชื่อดังชาวอิตาลี บุคลากรคนสำคัญของวงการละครเพลงโอเปร่า