นักร้องสาว ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ เซ็นสัญญาเข้าสังกัดใหม่ใต้ชายคาค่าย ‘ยูนิเวอร์แซล’ โดยให้เหตุผลว่าพอใจที่บริษัทให้ศิลปินมีสิทธิในตัวเพลงที่สร้างสรรค์อย่างเท่าเทียม
เป็นศิลปินอีกคนที่พยายามเรียกร้องความเท่าเทียมในวงการเพลงมาโดยตลอด สำหรับซูเปอร์สตาร์สาว ‘เทย์เลอร์ สวิฟต์’ ที่ล่าสุดได้ตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับค่ายเพลงที่แจ้งเกิดให้เธออย่าง ‘บิ๊กแมชชีนเรคคอร์ดส์ (Big Machine Records)’ และหันไปซบอกค่าย ‘ยูนิเวอร์แซลมิวสิกกรุ๊ป (Universal Music Group)’ แทน
โดยสวิฟต์ได้ประกาศเรื่องนี้ผ่านอินสตาแกรมของเธอ พร้อมระบุว่า เธอดีใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ และยังรู้สึกตื่นเต้นที่เธอจะได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดที่เธอสร้างสรรค์นับแต่นี้ ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นอนาคตที่ดีของอุตสาหกรรมเพลง นอกจากนั้น ทางค่ายยังตอบตกลงคำขอของเธอในการแบ่งรายได้จากการขายหุ้นที่ได้จากแอปพลิเคชันสตรีมเพลงชื่อดัง ‘สปอติฟาย’ ให้กับศิลปินในค่ายทั้งหมดอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อศิลปินในวงการเพลงไม่น้อย
ก่อนหน้านี้ ในปี 2015 สวิฟต์ได้เรียกร้องให้ ‘แอปเปิล’ จัดสรรส่วนแบ่งให้กับศิลปินอย่างเท่าเทียมในช่วงทดลองใช้ ‘แอปเปิลมิวสิก’ โดยหลังจากนั้น เธอยังบอยคอตต์ ‘สปอติฟาย’ นานถึงสามปี เพราะบริษัทไม่ยอมจ่ายส่วนแบ่งให้กับศิลปินระหว่างช่วงทดลองใช้ฟรี ก่อนที่เธอจะคืนดีกับสปอติฟายช่วงกลางปีนี้ โดยปัจจุบัน ยูนิเวอร์แซลถือหุ้นในสปอติฟาย 3.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคิดเป็นเงินราว 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 30,000 ล้านบาท
ล่าสุด สวิฟต์ยังขึ้นแท่นเป็นนักร้องหญิงที่ได้รับค่าจ้างมากที่สุดเป็นอันดับที่สองประจำปีนี้ โดยทำเงินไป 80 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2 พัน 6 ร้อยล้านบาท ขณะที่แชมป์ปีนี้ตกเป็นของนักร้องสาว ‘เคที่ เพอร์รี’ ที่ทำเงินไป 83 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,700 ล้านบาท
Source
Instagram/ @taylorswift