วันที่ 15 ก.พ. เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางถึงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยสั้นๆ กับผู้สื่อข่าวว่ามาติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เพราะเป็นเรื่องสำคัญมาก และขอรับฟังรายงานก่อนที่จะมาแถลงข่าวให้สื่อมวลชนรับทราบ
นายกรัฐมนตรี รับฟังรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ล่าสุด จากปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กรมควบคุมมลพิษ ที่ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ทั่วประเทศ วันนี้ว่า 1,700 จุด ซึ่งสถานการณ์อีก 2 วันจึงจะคลี่คลาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีสนใจเรื่องการแจ้งเตือนให้กับประชาชน และจังหวัดต่างๆ โดยนายกรัฐมนตรีอยากให้ยึดเชียงใหม่โมเดล ในการแก้ปัญหา ที่มาจากการบูรณาการความร่วมมือ และตนได้เดินทางไปติดตามสถานการณ์ที่เชียงใหม่ถึง 3 ครั้ง พร้อมขอให้ส่งข้อมูลรายชื่อติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน ว่าได้ประสานกับประเทศใดไปบ้างแล้ว ขณะที่ นายกฯขอให้รวบรวมข้อมูล สรุปรายงานส่งมาเพื่อประชุมในช่วงบ่ายวันนี้
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ หลังรับฟังรายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ โดยนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า หลังจากได้รับฟังรายงานก็เห็นแล้วว่าจุด Hotspot ของค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ตรงไหนบ้าง ซึ่งได้พบว่าอยู่ที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งในวันนี้เวลา 13.30 น จะนัดหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึง ผู้บัญชาการทหารบก และทีมงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่า ปัญหาของเรื่องฝุ่นอยู่ตรงไหน และดูรายงานของวันนี้ก็พบว่าจุดสูงสุดของค่าฝุ่นพิษในแผนที่ จ.เชียงใหม่ ควรจะมีค่าฝุ่นที่สูงกว่านี้ แต่ในช่วงเวลานี้กลับเป็นสีเหลือง จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดี หลังจากที่ตนเองได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถึง 3 ครั้งติดตามและกำชับ การบริหารจัดการ ทั้งจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ผลที่ออกมานั้นดูดี จึงอยากจะทำเชียงใหม่ให้เป็นโมเดลนำร่องอีกหลายจังหวัด ส่วนในระยะสั้น กรุงเทพมหานคร ได้ประกาศให้มีการ work from home บางส่วนแล้ว ส่วนระยะสั้นให้ผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดในแต่ละพื้นที่ ประสานกับฝ่ายความมั่นคง ติดตามเรื่องนี้ ซึ่งกระทรวงทรัพย์ฯ ก็มีข้อมูลที่ดี ตรงไหนที่เป็นปัญหาก็ต้องสั่งการที่ชัดเจน รวมถึงประสานกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเผา
"เราต้องทำวันนี้ให้คลี่คลาย ไม่ใช่จะบอกว่าอีก 3 วันจะดีขึ้น เพราะเราต้องอยู่กับมันไป ยังไงก็ต้องแก้ไขกันไป จะรออีก 3-4 วัน และให้ทิศทางลมดีขึ้น จะหวังให้ลมฟ้าอากาศมาช่วยก็คงไม่ได้ และวันนี้มากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมครั้งแรก เพราะเห็นว่าเรื่อง PM 2.5 เป็นเรื่องใหญ่ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวนั้น ต้องดูกันไป ทั้งเรื่องควันพิษที่ออกมาจากรถยนต์ รวมถึงมาตรการที่จะเปลี่ยนให้ไปใช้รถ EV ซึ่งวันนี้กรุงเทพมหานครมีค่าความร้อนสูงหลายพื้นที่ และ 1 ใน 3 ออกมาจากรถยนต์ รวมถึงแนวความคิดของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะมีการย้ายท่าเรือคลองเตยออกไป ก็เป็นเรื่องดี จะเป็นการแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว" เศรษฐา กล่าว
นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า เป็นเรื่องที่ดีที่จะต้องเชิญชวนให้ประชาชนมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งต้องพูดคุยกับ Operator ในการลดค่าใช้จ่ายเดินทาง ซึ่งต้องเร่งทำรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดทั้งสาย เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกและมีราคาที่เข้าถึงได้ ขณะที่ต้องให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับการเผา
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเดินทางมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประมาณ 20 นาที หลังนายกรัฐมนตรีเดินทางกลับ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้เดินทางมาถึง แต่ไม่ทันพบกับคณะของนายกรัฐมนตรี
ขณะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ได้อยู่ที่กระทรวงทรัพย์ฯ ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึง เนื่องจากติดตอบกระทู้ถามที่อาคารรัฐสภา