ไม่พบผลการค้นหา
'สุรเชษฐ์' ลั่นตนทำคดี 'ทุนจีนสีเทา' ไม่มีมวยล้มต้มคนดู แม้มีอำนาจ-เงินเยอะ เหตุไร้ผลประโยชน์เกี่ยวข้อง เผยคดีคืบ 90% แจงเข้าตึกไทยรายงานความคืบหน้าค้ามนุษย์เท่านั้น

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยภายหลังลงจากตึกไทยคู่ฟ้า ว่า วันนี้ไม่ได้มาพบหรือรายงานนายกรัฐมนตรี เพียงแต่มาประสานเจ้าหน้าที่เรื่องคดีการค้ามนุษย์ เพราะเป็นเรื่องที่ประเทศสหรัฐอเมริกาชมเชย พอใจประเทศไทยในเรื่องปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยวันนี้เราเป็นเทียร์ 2 เราก็ต้องเร่งรัดปราบปรามการใช้กฎหมายในภาพรวมซึ่งต้องเดินหน้าต่อ รวมไปถึงการป้องกันและการดูแลเหยื่อ 

ส่วนเรื่องความคืบหน้าทุนจีน ตนได้รายงานพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปแล้ว ซึ่งท่านจะรายงานนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยนายกรัฐมนตรีได้ย้ำเป็นครั้งสุดท้ายในการประชุม ก.ตร.ที่ผ่านมาว่าให้ทำคดีอย่างตรงไปตรงมา โดยการทำงานของเจ้าหน้าที่วันนี้ยึดหลักตามกฎหมาย ถึงใครก็ว่าไปตามนั้น หากไม่ถึงก็ต้องให้ความเป็นธรรมเขา เพราะฉะนั้นในเรื่องนี้ต้องเห็นใจผู้ปฏิบัติงานด้วย เพราะวันนี้เราใช้พนักงานสอบสวนเยอะมาก จึงต้องใช้เวลากับคดีนี้เยอะ ซึ่งตนและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องก็พยายามเร่งรัดคดีนี้ ซึ่งจะพยายามให้จบโดยเร็ว

เมื่อถามว่า เบื้องต้นตอนนี้มีความเชื่อมโยงกับนักการเมืองหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตอนนี้ยังไม่พบความเชื่อมโยง แต่วันนี้เราพยายามรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดมาวิเคราะห์ ซึ่งจะมาวิเคาระห์ร่วมกับ ป.ป.ง. , ป.ป.ส. หลังจากนั้นหากเชื่อมโยงถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ถ้าไม่ถึงก็ไม่ถึง พร้อมยืนยันว่าจะใช้เวลาในการแยกแยะอีกไม่นาน เพราะขณะนี้ก็เร่งการสืบสวนไปเยอะแล้วถึง 90% โดยวันนี้ฝ่ายสืบสวนเร่งทำงานทุกวัน เพราะตนต้องรีบจบคดีนี้เพื่อไปทำคดีต่ออีก แต่ต้องทำโดยรอบคอบ เพราะบุคคลเหล่านี้เขามีทนายความ นักกฎหมายเก่งๆ และมีเงินเยอะ ซึ่งเรากำลังสู้กับคนที่มีฐานะการเงินสูง ฉะนั้นจึงต้องทำอย่างรอบคอบ แต่ไม่ได้หมายความว่าเรากลัว แต่ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

เมื่อถามว่า วันนี้ยังมีการกระทำของกลุ่มทุนจีนดังกล่าวอีกหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เชื่อว่า วันนี้ภายในประเทศไทยกลุ่มดังกล่าวได้หนีออกไปเยอะแล้ว จากการที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการเช่นนี้ เพราะกลุ่มนี้หลบหนีจากจีนมากัมพูชา และเมื่อกัมพูชากวาดล้างหนักจึงมาประเทศไทย และไป สปป.ลาว จากที่ตนได้ไปคุยกับ ผบ.ตร.สปป.ลาว เมื่อวานนี้ก็เชื่อว่า คน 2 สัญชาติลักษณะนี้จะไม่มีแผ่นดินอยู่ ฉะนั้นสิ่งสำคัญต่อไปเราต้องมาวาง มาตรการเข้มงวด โดยเริ่มจากการตรวจคนเข้าเมือง และการให้วีซ่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจตม. หรือบุคคลใดทำผิดก็เตรียมถูกดำเนินคดี 

เมื่อถามว่า กรณีกลุ่มจีนมีทั้งอำนาจและเงินจำนวนมาก จะไม่กลายเป็นมวยล้มใช่หรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวย้ำหลายรอบ ว่า ไม่มี เพราะถ้าตนทำไม่มีมวยล้มแน่ เพราะถ้าเราไม่มีผลประโยชน์มันตัดสินใจง่าย เรื่องนี้ตนทำสบายใจมาก เพราะเราทำอย่างตรงไปตรงมา แต่มันอาจจะเหนื่อย เครียด เอกสารเยอะ 

"เราเป็นตำรวจ มันต้องทำ เมื่อไหร่ที่ไม่มีผลประโยชน์มันตัดสินใจง่าย ความจริงรับรองได้ว่าเรื่องนี้มีไม่มีมวยล้ม”