วันที่ 22 ธ.ค. ที่อาคารรัฐสภา พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ภายหลังเข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ครั้งที่ 54 วาระการศึกษาการดำเนินการตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. …
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ชี้แจงว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้มาชี้แจงเรื่องการเตรียมความพร้อมดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ซึ่งเป็นหมุดหมายสำคัญ เป็นที่สนใจและคาดหวังของประชาชน และกำลังจะมีผลบังคับใช้
ในเมื่อขณะนี้ พ.ร.บ. ดังกล่าว ผ่านขั้นตอนทุกอย่างแล้ว เหลือเวลาอีก 2 เดือน ก่อนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ก.พ. 2566 ทางคณะอนุกรรมาธิการจึงเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย กรมสอบสวนคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และกรมพินิจและคุ้มครองเยาวชน มาชี้แจงถึงการเตรียมความพร้อมดังกล่าวด้วย
สำหรับขอบข่ายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ชี้แจงว่า ผบ.ตร. ได้สั่งการให้มีการเตรียมความพร้อม ตั้งแต่ผู้บังคับการ ผู้บัญชาการ จ่า ดาบ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ และโรงพักทั้ง 1,484 แห่ง ให้เข้าใจรายละเอียดปลีกย่อยของการการปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมาย การออกระเบียบกลางร่วมกันสำหรับหน่วยปฏิบัติทั้งหมด การสอบสวนในรูปแบบสหวิชาชีพ รวมถึงการใช้กล้องติดตัว (Body Camera) การบันทึกภาพและเสียงขณะจับกุมนำตัวส่งโรงพักและเจ้าหน้าที่ปกครอง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสการเลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ. ดังกล่าว พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ยังไม่มีข้อมูลในส่วนนี้ และ ผบ.ตร. ก็สั่งการให้เตรียมความพร้อมในทุกส่วน ขณะที่ทุกหน่วยงานก็ยืนยันว่ามีความพร้อมตามกรอบเวลาดังกล่าว พร้อมย้ำว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมอยู่แล้ว อบรม และเดินตามนี้ เพื่อบังคับใช้ได้ในวันที่ 22 ก.พ. 2566