เลือกตั้งนายกฯ อบจ.จังหวัดสงขลา เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ทางภาคใต้ที่มีความดุเด็ดเผ็ดมัน โดยเป็นการเชือดเฉือนระหว่างพรรคใหญ่พลังประชารัฐ(พปชร.) และเจ้าของพื้นที่เดิมอย่างพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)
เลือกตั้งนายกฯเมืองสงขลามีผู้ท้าชิง 6 คน ประกอบด้วย จะเด็ด เหมโกทวีทรัพย์ ผู้สมัครอิสระ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล กลุ่มสงขลาประชารัฐ ไพเจน มากสุวรรณ์ พรรคประชาธิปัตย์
ภัทราวรรณ ขำตรี จากพรรคเพื่อสังคม อภิญญา ยอดแก้ว ผู้สมัครอิสระ วชิรวิทย์ ภัสระ ผู้สมัครอิสระ
ที่น่าจับตามอง คือ พรรค ปชป. ส่ง "ไพเจน มากสุวรรณ" อดีตรองอธิบดีกรมชลประทาน อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงชิงชัย โดยมีคู่แข่งสำคัญอย่าง พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ทีมสงขลาประชารัฐ
โดย "ผู้การสุชาติ" เป็นเพื่อนเตรียมทหาร (ตท.) 12 รุ่นเดียวกับ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอดีต ส.ส.สงขลา เป็นอดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กระทั่งต่อมาได้เป็น ผอ.เลือกตั้งภาคใต้ พรรค พปชร.
แม้ พ.อ.สุชาติ จะไม่ได้ลงในนามพรรค พปชร.แต่ก็ใช้ความเป็นพรรค พปชร.มาช่วยหาเสียง ไม่ว่าจะเป็น โลโก้พรรค เสื้อพรรค และนโยบายของพรรค พปชร. ตลอดจนการเปิดตัวก่อนขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง ก็เป็นรูปแบบเดียวกับที่พรรค พปชร.ใช้เมื่อตอนเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562
จุดขาย นโยบายเร่งด่วนของ “ผู้การสุชาติ” คือการประกาศว่าจะใช้งบประมาณปีละ 1,080 ล้านบาท ของ อบจ.สงขลา มาบริหารจัดการให้ทุกหมู่บ้านในสงขลาได้ประโยชน์โดยตรง
นั่นคือนโยบาย หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท โดย “เพื่อนนายกฯ” ปราศรัยว่า "ถ้าผมเป็นนายก อบจ.ผมจะเอางบประมาณลงมาให้พี่น้องทุกๆหมู่บ้าน หมู่บ้านละ 1 ล้านต่อปี โดยเป็นนโยบายจะที่ใช้กับทั้ง 16 อำเภอ 127 ตำบล 980 หมู่บ้าน"
“หมู่บ้านละหนึ่งล้าน ให้พ่อแม่พี่น้อง คิดเอง ทำเอง บริหารจัดการกันเอง ไม่ต้องผ่านหน่วยราชการใดๆทั้งสิ้น เป็นงบสนับสนุนในการประกอบอาชีพ ไม่ต้องคืน” พ.อ.สุชาติ กล่าวปราศรัย
ผู้สมัครนายกฯ อบจ.รายนี้ เผยที่มาของนโยบายดังกล่าวว่า เกิดไอเดียเมื่อตอนเดินสายช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียงในจังหวัดสงขลา
กระนั้น แม้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเดินหน้าสานต่อกองทุนหมู่บ้านอยู่แล้ว แต่ พ.อ.สุชาติ ก็ยืนยันว่า นโยบายหมู่บ้านละ 1 ล้านบาทนี้ จะใช้งบประมาณจาก อบจ.สงขลา
“ผู้การสุชาติ” ยังโชว์จุดขายความใกล้ชิดกับผู้นำรัฐบาล โดยบอกว่า “ผมเองกับนายกฯเป็นเพื่อนกัน ตั้งแต่ชุมพรถึงนราธิวาส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีเพื่อนคนเดียวเท่านั้นคือ พ.อ.สุชาติ ถ้าผมได้สะท้อนถึงปัญหาของจังหวัดเราให้ พล.อ.ประยุทธ์ ฟัง มีหรือที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่เห็นใจชาวสงขลา”
ทางด้านคู่แข่งอย่าง “ไพเจน มากสุวรรณ์” โชว์จุดขายความเป็นอดีตข้าราชการขั้นผู้ใหญ่ มีประสบการณ์ทำงานสูง เน้นการทำงานเป็นทีม มุ่งสร้างการเมืองโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์แอบบแฝง มือสะอาด
เวทีหาเสียงของ “ไพเจน มากสุวรรณ์” มีการโจมตี “ผู้การสุชาติ” อย่างดุเดือด โดยตอบโต้ว่านโยบายต่างๆของกลุ่มสงขลาประชารัฐนั้น ไม่สามารถทำได้จริง เป็นการพูดลอยๆ นอกจากนี้ยังเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ห้ามผู้สมัครสัญญาว่าจะให้ ซึ่งมีโทษจำคุก 1-20 ปี ตัดสิทธิ์การเลือกตั้ง
เวทีปราศรัยของ “ไพเจน” ไม่เน้นความหวือหวา ขณะที่เจ้าตัวก็ไม่ใช่คนพูดเก่ง ปราศรัยแบบเนิบช้า
มีนโยบายสำคัญ เช่น ฟื้นฟูทะเลสาบและและอ่าวไทย เพื่อความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรธรรมชาติ ขุดลอกร่องน้ำทะเลสาบสงขลา สร้างฟาร์มทะเล แก้ไขปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้ง สร้างน้ำสะอาด ส่งเสริมการแปรรูปยางพารา ส่งเสริมรถไฟฟ้าโมโนเรล แก้ไขปัญหาการจราจร
"ไพเจน" บอกว่า หลายนโยบายทำได้ทันที ขณะทีี่หลายนโยบายต้องใช้เวลากว่าจะสำเร็จ นี่คือความเป็นจริง ไม่ใช่การขายฝันหรือการพูดโดยไม่มีหลักแหล่ง
หากย้อนกลับไปดูผลการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 สงขลา 8 เขต เป็นของพรรรคพลังประชารัฐ 4 คน คือ วันชัย ปัญญาศิริ ,ศาสตรา ศรีปาน ,พยม พรหมเพชร และ ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี
ประชาธิปัตย์ 3 คน คือ เดชอิศม์ ขาวทอง , ถาวร เสนเนียม , พล.ต.ต. สุรินทร์ ปาลาเร่
และพรรคภูมิใจไทย 1 คน คือ ณัฎฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ
ฉะนั้น การเลือกตั้ง อบจ.สงขลารอบนี้ พปชร.และ ปชป.จึงเป็นคู่แข่งที่สูสี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง