เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 18 ก.พ. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเรื่องด่วน ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ตามที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ ส.ส. 173 คนเป็นผู้เสนอ

ทั้งนี้ รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายในประเด็น 'ความพยายามของรัฐบาลในการปกป้องการค้ามนุษย์ในประเทศไทย' ว่า เมื่อเดือน มิ.ย. 2564 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ รายงานสถานการณ์การ ค้ามนุษย์ หรือ TIP Report ประจำปี 2021 ได้ลดระดับประเทศไทยลงในกลุ่มเกือบแย่สุดจากทั้ง 4 ระดับ และรายงานการลักลอบขนคนผิดกฏหมายระหว่างชายแดนเมียนมาร์-ไทย มีการเรียกเก็บเงิน 10,000 - 70,000 บาท โดยได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐหลายภาคส่วน เช่น ตำรวจ ทหาร หน่วยงานท้องถิ่น หรือ ตม. ช่วยปกปิดตัวตนไม่ให้สืบไปถึงขบวนการค้ามนุษย์ได้ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลบางคนก็ได้รับประโยชน์ด้วย 

การค้ามนุษย์ไม่ได้มีเพียงการบังคับไปขายบริการทางเพศ เป็นแรงงานเรือประมง หรือไปขอทาน ในกรณีของชาวโรฮิงญา ที่ต้องการอพยพไปยังมาเลเซียโดยผ่านประเทศไทย เป็นที่มาของขบวนการที่หากินกับชีวิตและเลือดเนื้อของคน การเรียกเก็บเงินจากชาวโรฮิงญาหัวละหลายหมื่น จับใส่เรือประมง ขนคนมาขังไว้ที่ค่ายลับ ผู้หญิงบางคนถูกข่มขืน แต่ละคนถูกซ้อมทรมาน เปิดโทรศัพท์แล้วเฆี่ยนตีให้ญาติปลายทางฟัง เพื่อจะได้เรียกเก็บค่าไถ่ หากไม่มีจ่าย ก็ปล่อยทิ้งให้อดๆ อยากๆ จนหิวและป่วยตายไป จนท.ตำรวจบุกทลายค่ายคุมขังและหลุมศพชาวโรฮิงญาที่ตรวจพบบริเวณเทือกเขาแก้ว อ.ปะดังเบซาร์ จ.สงขลา เมื่อ พ.ค. 2558 อันเป็นจุดเริ่มต้นของการสืบคดีการค้ามนุษย์ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ โดยที่ผู้รับผิดชอบคดีอย่าง พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กลับถูกกดดันจนต้องมีสถานะผู้ลี้ภัย 

"การเอาคนจากยะไข่ลงเรือมากขึ้นบกที่ไทย ขังอยู่ในคอกตั้งนานแบบนี้ ลำพังแค่อาชญากรทั่วไปทำไม่ได้ ถ้าไม่มีอาชญากรในเครื่องแบบร่วมด้วย" 

แฉขบวนการตัดตอนคดีค้ามนุษย์ บีบ 'ปวีณ' ลี้ภัย

รังสิมันต์ เปิดคำให้การของ พล.ต.ต.ปวีณ ต่อทางการของประเทศออสเตรเลีย เพื่อใช้ในการขอลี้ภัย เป็นกระบวนการตามกฎหมายของออสเตรเลีย ทั้งนี้เมื่อเดือน พ.ค. 2558 เมื่อ พล.ต.ต.ปวีณ เริ่มทำคดีนี้ และสืบหาตัวพยานด้วยการถามตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ ก็ถูกปฏิเสธทั้งหมด พล.ต.ต.ปวีณ จึงต้องสืบหาพยานเองเพื่อออกหมายจับ 

ต่อมามีการค้นบ้านพักกลุ่มผู้ต้องหาใน จ.ระนอง พบหลักฐานการโอนเงิน ของผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ ลงชื่อผู้รับสำคัญ เช่น จันทรา หรือเจ๊ง้อ ซึ่งเสียชีวิตไปแล้วหนึ่งในขบวนการค้ามนุษย์รายใหญ่ และตนทราบมาว่า เจ๊ง้อคนนี้ สายสัมพันธ์โยงใยไปถึงอดีตนายทหารระดับสูงในรัฐบาลชุดปัจจุบันนี้ด้วย อีกชื่อสำคัญที่รับเงินมาคือ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก โดยช่วงแรก จนท.ตำรวจที่เป็นหัวหน้าชุดสืบค้นไม่ยอมส่งให้ พล.ต.ต.ปวีณ แต่มาพบในภายหลัง ซึ่งกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการออกหมายจับ พล.ท.มนัส ในเวลาต่อมา 

รังสิมันต์ อภิปรายว่า หลังออกหมายจับ พล.ท.มนัส ไม่กี่วัน พล.ต.ต.ปวีณ ก็ได้รับโทรศัพท์จากนายตำรวจคนสนิทของ พล.อ.ประวิตร อ้างว่า พล.อ.ประวิตร ต้องการให้ พล.ท.มนัส ถูกปล่อยตัว จากนั้นได้มีการใช้เส้นสายกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ในขณะนั้น ร้องขอให้มีการประกันตัว สะท้อนถึงการไม่เคารพกฏหมาย โดยเฉพาะคดีนี้ที่มีความเกี่ยวเนื่องนอกราชอาณาจักร ซึ่งตามกฎหมายผู้ที่จะสั่งให้หรือไม่ให้ประกันคืออัยการสูงสุด ไม่ใช่ ผบ.ตร. หรือนายกรัฐมนตรี จากนั้นเมื่อ พล.ท.มนัส มามอบตัว ก็ได้ข่มขู่พยานสำคัญ และ พล.ต.ต.ปวีณ ทั้งยังมีการกดดันจากทหารและตำรวจด้วยกัน โดยบอกว่าทางทหารไม่พอใจที่ออกหมายจับ 

"ท้ายที่สุดแล้ว ทีมสอบสวนของ พล.ต.ต.ปวีณ สามารถสรุปสำนวนส่งอัยการสูงสุดเป็นเอกสารจำนวน 699 แฟ้ม คิดเป็น 271,300 แผ่นกระดาษ ออกหมายจับผู้ต้องหาได้ถึง 153 คน ทั้งหมดนี้เหมือนจะจบลงได้ด้วยดี ปัจจุบันคดีได้พิจารณาไปจนถึงศาลอุทธรณ์ ภาค 3 ลงโทษไปถึง 75 แต่สำหรับ พล.ต.ต.ปวีณ นี่คือจุดเริ่มต้นของหายนะ" 

ในเวลาต่อมาเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2558 ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประธานในขณะนั้น ได้อนุมัติย้าย พล.ต.ต.ปวีณไปรักษาราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ขบวนการค้ามนุษย์มีเครือข่ายอยู่อย่างแน่นหนา และเป็นเขตอิทธิพลของทหารที่ไม่พอใจ พล.ต.ต.ปวีณ อยู่เป็นทุนเดิม พื้นที่นี้จึงเสี่ยงเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มผู้เสียประโยชน์จากการดำเนินคดีจะหมายเอาคืน พล.ต.ต.ปวีณ 

"ท่านต้องการให้ พล.ต.ต.ปวีณ จบชีวิตที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใช่ไหม" รังสิมันต์ ระบุ

ข้องใจค้ามนุษย์อาจทำทหารรวยกัน โวยไม่เกาะขอบโต๊ะต้องฉิบหาย

จากนั้น เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2558 หลังคำสั่งย้าย พล.ต.ต.ปวีณนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ในเวลานั้น ให้เหตุผลคำสั่งย้ายว่าได้รับคำแนะนำคือ พล.ต.ท.เทศา สิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 ในเวลานั้นว่า พล.ต.ต.ปวีณ เชี่ยวชาญในคดีความมั่นคง ขณะที่ พล.ต.ท.เทศา ก็เป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารของ พล.ท.มนัส อีกคนหนึ่ง แม้ พล.ต.ต.ปวีณ เคยร้องขอให้ทบทวนคำสั่งย้าย แต่ก็ถูกปฏิเสธ นำมาสู่การลาออกของ พล.ต.ต.ปวีณ เพื่อรักษาชีวิตตัวเอง เมื่อ 5 พ.ย. 2558 

รังสิมันต์ ระบุว่า "ทุกวันนี้ที่หลายคนอาจตั้งคำถามว่าอะไรทำให้ทหารรวยกันหนักกันหนา นี่อาจจะเป็นสาเหตุ แท้จริงแล้ว มีใครที่ใหญ่กว่า สูงกว่า พล.ท.มนัส หรือไม่ มีคนในรัฐบาลที่รอชี้แจงอยู่ในสภาตอนนี้ มีส่วนร่วมด้วยหรือไม่ การขัดขวางการสอบสวนของทีม พล.ต.ต.ปวีณ ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็เพื่อตัดตอนคดีนี้ เอาแค่ไม่ให้เขาไปได้ไกลกว่า พล.ท.มนัส ซึ่งปัจจุบันก็เสียชีวิตอย่างปริศนาในเรือนจำ ซัดทอดอะไรไม่ได้อีกแล้ว อย่างนั้นใช่หรือไม่" 

"นี่คือผลลัพธ์แบบเดียวกับตำรวจ 96 นาย ที่ปฏิเสธไม่ย้ายสังกัดเป็นตำรวจราบ จนถูกธำรงวินัยนานเกือบปีใช่หรือไม่ หรือว่าเป็นด้านตรงข้ามของคนที่ได้ตัวช้า คนใดใช้วิชามารก็จะได้ดี ส่วนใครที่มาซื่อตรงต่อหน้าที่แล้วไม่รู้จักเกาะขอบโต๊ะจนจะสูงก็ต้องฉิบหายวายวอดกันไปใช่หรือไม่" 

รังสิมันต์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรได้ปกป้องตำรวจน้ำดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้คุ้มครองข้าราชชการตงฉินหรือไม่ มาบอกทำปากดีปากแจ๋วให้กลับมา รับฐาลแบบนี้มีค่าพอให้ใครไว้วางใจ แล้วทุุกวันนี้ที่ พล.ต.ต.ปวีณอยู่ต่างประเทศไม่ได้สุขสบาย ต้องทำงานใช้แรงงานหาเลี้ยงชีพ รัฐบาลนี้ไม่ส่งเสริมคนทำงานอย่าง พล.ต.ต.ปวีณ ให้ไปทำงาน เพราะแท้จริงแล้ว ผู้ค้ามนุษย์ตัวใหญ่ตัวจริงอยู่แถวนี้ อยู่ในทำเนียบฯ อยู่ในกระทรวง หรืออาจกำลังจะอยู่ในสภาฯขณะนี้ก็เป็นไปได้ ถ้ายอมให้คนจริงเข้าพุ่งชนปัญหาอย่างจัง ก็คงกลัวว่าจะถูกสาวเรื่องได้สูงขึ้นเรื่อยๆ อาจจะสูงขึ้นกว่าคนในกระทรวง หรือในทำเนียบฯด้วยซ้ำ"

รังสิมันต์ ระบุตอนท้ายว่า เป็นความอยุติธรรมที่ทำให้คนชั่วๆ ได้ดี คนดีดๆ ต้องลี้ภัยมากไปกว่าการค้ามนุษย์ นี่คือปัญหาของระบบรัฐบาลนี้ที่ทำลายคนซื่อสัตย์ ทำลายล้างคนตรงไปตรงมา ทำลายล้างคนที่กล้าสู้กับสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อให้ประเทศนี้ดีขึ้น เปลี่ยนคนทำดีให้มาประพฤติชั่ว เปลี่ยนคนกล้าให้กลัวหัวหด ระบอบปรสิตเช่นนี้ถ้าไม่รีบเอาออก จะกัดประชาชนคนทำงานทั้งหมดให้ไม่เหลือชิ้นดี ทั้งนี้ ตนขอฝากประชาชน หากพวกท่านรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ขอให้เลิกสนับสุนรัฐบาลนี้ ขอให้เลิกเลี้ยงดูรัฐบาลนนี้ ถ้าพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล จะไม่ปล่อยให้การค้ามนุษย์เฟื่องฟูอยู่อย่างนี้

'สุชาติ' เชิญ 'โรม'บี้นายกฯเมินแจง ออกจากห้องประชุมสภาฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมชี้แจงที่ประชุมสภาฯ กรณีที่ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยที่ได้อภิปราย ทำให้ รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทวงถามที่ประชุมสภาฯ เพื่อขอให้นายกชี้แจงในประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่าแม้เรื่องดังกล่าวจะทำให้นายกรัฐมนตรีรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ แต่ถ้านายกฯใจดำอำมหิต ที่ไม่ยอมชี้แจง ก็ไม่สมควรจะเป็นนายกรัฐมนตรี อีกต่อไป ทำให้ กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นประท้วง ขอให้รังสิมันต์ ถอนคำพูดเพราะเป็นการเสียดสีนายกรัฐมนตรี

โดย สุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่1 ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมในขณะนั้น จึงขอให้ รังสิมันต์ถอนคำว่าอำมหิต พร้อมอธิบายว่า นายกรัฐมนตรีจะชี้แจงเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ รังสิมันต์ ไม่ยอมถอนคำพูดประธานจึงขอให้นายรังสิมันต์ออกจากห้องประชุมตามข้อบังคับหากไม่ยอมถอนคำพูด รังสิมันต์ ยืนยันไม่ถอนคำพูดและยอมออกจากห้องประชุมในที่สุด