ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรี​ เตรียมประชุมผู้นำ​ 5​ ประเทศลุ่มน้ำโขง 24-25 ส.ค. 2563 หารือ​บริหารจัดการน้ำ ผลักดันวัคซีน​โควิด-19​ ​ก่อนลงพื้นที่ จ.ระยอง ติดตามความก้าวหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน​ร่วมภาคเอกชนพัฒนาพื้นที่​ 'ฉะเชิงเทรา​-ชลบุรี​-ระยอง'​ ยืนยันยังไม่มีกำหนดเวทีพบนักศึกษาระหว่างลงพื้นที่

อนุชา บูรพชัยศรี​ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ แถลงข่าวถึงกำหนดการ​การภารกิจนายกรัฐมนตรี​ในวันที่ 24-25 ส.ค. 2563​ ซึ่งเป็นห้วงของการประชุม​ ครม.​ นอกสถานที่​ จ.ระยอง​ โดยในช่วงเช้าของวันที่ 24 ส.ค. 2563 นายกรัฐมนตรี​จะร่วมประชุมกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง(MLC)-ธนาคารแห่งประเทศไทยกับผู้นำ​ 5​ ประเทศประกอบด้วย​จีน​ เวียดนาม​ ลาว​ กัมพูชา​ เมียนมาร์​ ผ่านระบบการประชุมทางไกล​ หรือ​ Video Conference ซึ่งจะเป็นการสานต่อความร่วมมือจากภูมิภาค​อาเซียนที่ให้ความสำคัญกับประเด็นต่างๆ รอบด้าน​ โดยนายกรัฐมนตรี​ จะให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการน้ำลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งที่อาจจะเสนอ​ให้ตั้งคณะกรรมการ​ร่วมที่ประกอบด้วย​รัฐมนตรี​ที่ดูแลเรื่องการบริหารจัดการน้ำแต่ละประเทศเพื่อทำให้ทุกประเทศได้เข้าถึงการใช้ประโยชน์​จากลุ่มแม่น้ำโขง​ร่วมกัน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี​จะเน้นในเรื่องของสาธารสุขโดยเฉพาะความร่วมมือของไทยและจีนที่จะไม่ใช่แค่การพัฒนาวัคซีน​โควิด-19 แต่จะร่วมพัฒนาวัคซีน​ในโรคอื่น​ ๆ​ ด้วย​ พร้อมผลักดันวัคซีน​สำหรับโรคโควิด-19​ ​ให้เป็นในลักษณะการดูแลสุขอานามัยและและให้ทุกคนเข้าถึงได้​ด้วย​ ไม่มองเป็นเรื่องธุรกิจ​

หลังจากนั้น​ นายกรัฐมนตรี ​จะเดินไปลงพื้นที่​ จ.ระยอง ​ติดตามความคืบหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม​/โลจิสติกส์​ ในพื้นที่​อีอีซี โดยเฉพาะโครงการเส้นทางมอเตอร์เวย์​ เส้นทาง​ พัทยา-มาบตาพุต​ ก่อนจะตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของท่าอากาศยาน​อู่ตะเภาที่มีศูนย์ปฎิบัติการ​ในภาวะฉุกเฉิน​ การเยี่ยมชมจุดคัดกรอง​ เพื่อความพร้อมรองรับ​การเปิด​ท่องเที่ยวจากต่างประเทศในวงจำกัด (Travel Bubble) ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมชมตลาด 100 เสา และปล่อยพันธุ์​ปูลงสู่ทะเล​ 

ขณะที่ในวันที่​ 25​ ส.ค.​ 2563​ จะเยี่ยมชม​สินค้าพรีเมียม​นวัตกรรม​เพื่ออีอีซี และเป็นสักขีพยาน​มอบหนังสืออนุญาต​ให้ประชาชนเข้าทำกินในที่ดินที่รัฐบาล​จัดสรรให้​ และประชุมร่วมกับ​ เอกชน​ 3​ จ.ฉะเชิงเทรา​ ชลบุรี​ และระยอง​ ก่อนจะเข้าสู่การประชุม​คณะรัฐมนตรี​ นอกสถานที่​อย่างเป็นทางการ​

หลังเสร็จสิ้นนายกรัฐมนตรี​ ยังมีภารกิจต่อที่จังหวัดจันทบุรี​ ในการเยี่ยมชมโครงการนำร่องใช้ยางพาราเพิ่มความปลอดภัยทางถนน เช่น ผลิตแบร์ริเออร์​ยาว 60​ กิโลเมตร​

อนุชา ยังระบุว่า ยังไม่มีกำหนดที่จะจัดเวที​รับฟังความคิดเห็นของนักศึกษา​ในระหว่างลงพื้นที่เนื่องจากนายกรัฐมนตรี​มีหลายภารกิจในเวลาที่จำกัด​ ขณะที่เรื่องของการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นระดับภูมิภาคขอไปตรวจสอบรายละเอียดความคืบหน้าก่อนจะแจ้งให้สื่อมวลชน​รับทราบ​ เช่นเดียวกับความชัดเจนเกี่ยวกับการตั้งคณะรัฐมนตรี​หลังการปรับครม.​ ที่จะต้องมีการหารือกับรองนายกรัฐมนตรี​ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจ​ก่อนที่จะมาให้ความชัดเจนอีกครั้ง​