นิวยอร์กไทม์รายงานว่า ในเดือนสิงหาคมมีประชาชนเสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงในสหรัฐฯถึง 51 คน ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 ส.ค. ที่เมืองโอเดสซา มลรัฐเท็กซัส มีผู้เสียชีวิตจากการกราดยิงของคนร้าย 5 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 21 คน
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าคนร้ายเป็นชายผิวขาวอายุประมาณ 30 ปี ได้ก่อเหตุกราดยิงรถยนต์ในบริเวณโรงภาพยนต์หลังจากที่ตำรวจสั่งหยุดรถกระบะคันหนึ่งและคนร้ายได้ยิงสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนจะเกิดการไล่ล่าและต่อสู้กันจนถึงบริเวณหน้าโรงภาพยนต์ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิสามัญยิงคนร้ายเสียชีวิตในขณะที่คนร้ายกราดยิงประชาชนในบริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้ผู้เสียชีวิตมีทั้งเด็กนักเรียนและประชาชนทั่วไป ขณะที่ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้มีเข้าหน้าตำรวจรวมอยู่ด้วย 3 คนและมีเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ 1 คนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วยเช่นกัน
เหตุการณ์กราดยิงวานนี้นับเป็นเหตุการณ์ที่ 2 ที่เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคมของรัฐเท็กซัส หลังจากที่เมื่อช่วงต้นเดือนเกิดเหตุการดยิงประชาชนบริเวณห้างวอลมาร์ทในเมืองเอลปาโซ มีผู้เสียชีวิตถึง 22 คน
ทางด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาทวีตข้อความว่า "เขาเพิ่งได้รับรายงานเหตุการณ์กราดยิงในเท็กซัส ขณะที่เจ้าหน้าที่ FBI และการบังคับใช้กฎหมายจะมีอย่างเต็มที่ ส่วนรายละเอียดต้องติดตามต่อไป"
ทั้งนี้หลังจากเหตุการณ์กราดยิงที่เอล ปาโซ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้หัวมาพิจารณาการปฏิรูปการควบคุมปืนอีกครั้งหลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้สนใจข้อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการครอบครองปืนจากหลายฝ่ายอย่างจริงจัง
ที่มา CNN / The guardian