สมชัย ศรีสุทธิยากร ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะคณะผู้รณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ตัดอำนาจ ส.ว. เลือกนายกรัฐมนตรี เดินสายพบพรรคการเมืองเพื่อขอการสนับสนุนการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งในและนอกสภา
โดยเริ่มที่การเข้าพบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ที่ทำการพรรค เขตบางขุนนนท์ กทม. ในช่วงเช้า และมีกำหนดเข้าพบ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ที่ซอยลาดปลาเค้า 60
ส่วนพรรคการเมืองทั้งที่มี และไม่มี ส.ส.ในสภาฯ ทั้งพรรคการเมืองฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล รวมถึง ส.ว.บางส่วน จะทยอยเดินสายเข้าขอความสนับสนุนในโอกาสต่อไป และการเปิดให้ประชาชนร่วมลงชื่อทางระบบออนไลน์ จะเริ่มในวันที่ 17 มกราคม 2565 นี้ กำหนดเวลา 3 เดือน โดยตั้งเป้าให้ได้รายชื่อประชาชน 70,000 รายชื่อเป็นอย่างน้อย
โอกาสนี้ได้มอบเสื้อรณรงค์ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์และให้ทดลองกรอกแบบฟอร์มลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 นี้ด้วย
สมชัย กล่าวว่า ต้องการให้ฝ่ายการเมืองผลักดันการตัดอำนาจสวในการเลือกนายกรัฐมนตรีซึ่งเชื่อว่าจะเสร็จทันการเลือกตั้งระดับชาติที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะมีการยุบสภาและเลือกตั้งปลายปี 2565 หรือเดือนมีนาคมปี 2566 ก็ตาม หากทุกฝ่ายช่วยกันผลักดัน ถือเป็นโค้งสุดท้ายที่จะทำให้ได้กติกาใหม่ในการเลือกตั้งโดยตัดอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานประชาธิปไตย เพื่อให้การเลือกนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นในสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น
ในส่วนของ ส.ว.ต้องได้เสียงสนับสนุน 1 ใน 3 ซึ่งตนรู้จักเป็นการส่วนตัวประมาณ 100 คน โดยจะเดินสายเข้าพบพรรคการเมืองก่อนในช่วง 2 เดือนแรกและจะพูดคุยกับ ส.ว.ในช่วงท้ายจะเริ่มจาก ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภาก่อน
ส่วน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยืนยันให้การสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเต็มที่ โดยส่วนตัวต้องการแก้ไขหรือยกเลิกทั้งฉบับถ้าฉีกทิ้งได้โดยไม่ผิดกฎหมายก็จะฉีกทิ้งไปแล้ว และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราเดียว น่าจะได้รับความร่วมมือจากฝ่ายการเมืองต่างๆ ตามความต้องการของประชาชนทั้งประเทศที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
อีกทั้งสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนแปลงไป รวมถึงมีความขัดแย้งในในฝ่ายรัฐบาลที่สสบางคนอาจกลับใจมาสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย ให้ความร่วมมือในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะหากไม่ช่วยกันแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยตามความต้องการของประชาชนแล้ว ประชาชนอาจก่นด่าและอาจมีคนไปยืนด่าที่หน้าบ้านก็ได้