แถลงการณ์เปิดผนึกถึงสภาคองเกรสของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า "เขามีความตั้งใจที่จะยกเลิกโครงการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP)ของอินเดีย เนื่องจากรัฐบาลอินเดียไม่สามารถให้การรับรองรองได้ว่าสหรัฐฯจะสามารถเข้าถึงตลาดอินเดียได้อย่างเท่าเทียม"
ที่ผ่านมาประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวตำหนิอินเดียต่อเรื่องภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐที่มีราคาแพงว่า อินเดียเป็นประเทศที่ตั้งกำแพงภาษีสูง เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อินเดียเก็บภาษีนำเข้าเหล้าวิสกี้จากสหรัฐฯ สูงถึง 150 เปอร์เซ็นต์
ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯระบุว่า ในปี 2017 อินเดียเป็นประเทศที่ได้ประโยชน์จากโครงการ GSP มากที่สุด โดยได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าสูงถึง 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ทางด้าน อนพ วดาวัน รัฐมนตรีการค้าของอินเดียกล่าวว่า "อินเดียได้ประโยชน์จากโครงการจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯเพียงปีละ 190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวเลขในระดับต่ำและกลางเท่านั้น"
เมื่อเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯกล่าวว่าจะทบทวนสิทธิพิเศษของอินเดียในโครงการดังกล่าว หลังจากที่ภาคธุรกิจของสหรัฐฯกล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ประเภทนมและเครื่องเมือทางการแพทย์ที่ส่งไปอินเดียนั้นต่างเสียสิทธิประโยชน์จากโครงการ GSP ที่อินเดียได้รับสิทธิพิเศษนี้
ขณะที่วดาวันกล่าวว่า "อินเดียได้เสนอแพ็กเกจการค้าที่สมเหตุสมผลให้แก่ทางสหรัฐฯ แต่ทั้งสองประเทศยังไม่สามารถหาข้อตกลงร่วมกันได้ เนื่องจากข้อเรียกร้องบางอย่างของสหรัฐฯนั้นมากเกินไป ซึ่งอินเดียยังไม่สามรถตกลงในตอนนี้ได้"
นอกจากอินเดียแล้ว สหรัฐฯยังจะยกเลิกข้อตกลงการค้าในโครงการGSPกับตรุกีอีกด้วย เนื่องจากเศศรษฐกิจของตรุกีที่มีสถานะที่มั่นคงเพียงพอและไม่ต้องพึ่งพิงสิทธิพิเศษทางภาษีจากตลาดสหรัฐฯอีกต่อไป
อินเดียและตุรกีเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับสิทธิพิเศษตามโครงการGSP ของสหรัฐฯที่ยกเว้นภาษีศุลกากรให้แก่ประเทศกำลังพัฒนา 121 ประเทศทั่วโลก รวมถึงไทยด้วย
ที่มา CNN / The guardian