ไม่พบผลการค้นหา
'จุรินทร์' ชี้ พรรคตกปลาในบ่อเพื่อน คนรู้ทั้งประเทศว่าพรรคอะไร ชี้ เป็นได้แค่พรรคเฉพาะกิจ ไม่มีวันเป็นสถาบันได้

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนระหว่างลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงที่จังหวัดพังงา ซึ่ง จุรินทร์ ได้พูดถึงบรรยากาศของพื้นที่จังหวัดพังงาในช่วงที่กำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาของการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่าง ๆ ว่า การเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดพังงาครั้งนี้มีเขตการเลือกตั้ง 2 เขต ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั้ง 2 เขต

โดย เขต 1 จะส่ง กันตวรรณ ตันเถียร ส่วนเขต 2 จะส่ง ราเมศ รัตนะเชวง ลงสู้ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ และจะส่ง บำรุง ปิยนามวาณิช หรือ นายกหลี่ รวมทั้งตนเพื่อ ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อด้วยในฐานะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพังงา เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นการรวมพลัง 4 ประสาน จุรินทร์ บำรุง กันตวรรณ ราเมศ สู้ศึกเลือกตั้งจังหวัดพังงาทั้ง 2 เขต มั่นใจว่าเราจะได้พังงายกทีมทั้ง 2 เขต คือ กันตวรรณ กับ ราเมศ แล้วแถม จุรินทร์ กับ อดีตนายก อบจ. บำรุงด้วย

ส่วนกรณีที่จะมีการวินิจฉัยชี้ขาดในเรื่องจำนวนประชากรเพื่อแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาเป็นบวกหรือลบ สมมติว่ามีการปรับจำนวนประชากรใหม่จะด้วยเหตุใดก็ตาม จะเป็นเพราะคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญหรือเพราะอะไรก็ตาม ก็ยังคงมีจำนวนเขตเหมือนเดิมคือ 58 เขตในพื้นที่ภาคใต้ แต่ถ้ามีการปรับใหม่ก็คาดว่าภาคใต้จะเพิ่มขึ้นอีก 2 เขต เป็น 60 เขต ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมพร้อมทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งเรื่องตัวผู้สมัคร ทั้ง 58 เขตที่เราประกาศตัวผู้สมัครครบเป็นพรรคแรก และถ้าจะต้องมีเพิ่มอีก 2 เขต ก็มีการเตรียมคนไว้แล้ว ผู้สมัครภาคใต้ของเราล้น ไม่มีขาด

ส่วนเรื่องการลงพื้นที่และการจัดเวทีปราศรัยนั้น จุรินทร์ กล่าวว่า เห็นได้จากการจัดเวทีที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาที่ผ่านมา เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนในวันนี้เป็นการอบรมแกนนำในเขต 2 ซึ่งเป็นเขตที่ ราเมศ รัตนะเชวงเป็นผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง และถัดจากนี้ก็จะเป็นวันที่ 4 มี.ค. จะเป็นการปราศรัยใหญ่ที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งในวันนั้นจะมีการเปิดตัวผู้สมัครของจังหวัดพัทลุงทั้ง 3 เขตด้วย พร้อมกับจะมีเซอร์ไพรส์ที่จังหวัดพัทลุงอีกด้วย 

ส่วนในเรื่องของการจัดสรรผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อก็จะส่งครบทั้ง 100 คน ไม่มีปัญหาอะไร ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ โดยในวันนี้ช่วงบ่ายคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครจะได้ดำเนินการทุกอย่างและเมื่อมีความคืบหน้าจะแจ้งให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศได้ทราบ ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์เพิ่งมีการประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค และมีการเลือกคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร ทั้ง 500 คนขึ้นมาใหม่ให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรค 

ส่วนกรณีความคืบหน้าเรื่องการทาบทาม อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค มาลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อในนามประชาธิปัตย์นั้น จุรินทร์ ระบุว่า อภิสิทธิ์ เพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งตนได้เตรียมแนวทางและจะได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ ในเร็วๆ นี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ ท่านชวน ก็ได้พูดชัดแล้วว่า ถือเป็นหน้าที่ของอดีตหัวหน้าพรรค ที่จะเข้ามาช่วยพรรค เพราะตั้งแต่ในอดีต ก่อนที่ตนเป็นหัวหน้า ก็มีหัวหน้าพรรคทุกคนเคยปฏิบัติมา และในช่วงที่ อภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรค ท่านชวน กับ ท่านบัญญัติ ก็ลงสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ สำหรับครั้งนี้ตนมาเป็นหัวหน้าพรรค ตนก็ต้องให้เกียรติทั้ง 3 ท่าน

ส่วนกรณีที่ก่อนยุบสภายังคงมี ส.ส.ย้ายพรรคและมีการพูดว่าไม่มีการตกปลาในบ่อเพื่อนนั้น นายจุรินทร์ ชี้แจงเรื่องนี้ว่า ทุกคนรู้กันทั้งประเทศ ความลับมันไม่มีในโลก แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับอะไร ทุกคนก็ทราบกันทั้งหมด เพราะฉะนั้นตนก็ต้องบอกว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ยั่งยืนเพราะพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อน สุดท้ายก็เป็นพรรคเฉพาะกิจ ไม่มีวันที่จะเป็นสถาบันทางการเมืองได้ เพราะสถาบันทางการเมืองต้องสร้างคนให้ประเทศ สร้าง นักการเมืองคุณภาพให้ประเทศ การไปรวมคนที่ย้ายพรรคมา หรือว่าไปตกปลาจากบ่อเพื่อนมา ถ้าแบบนั้นก็ไม่มีความยั่งยืน ซึ่งมีตัวอย่างที่ชัดที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทยคือ พรรคสามัคคีธรรม ที่ไปรวมดูดพรรคอื่นๆมา แล้วสุดท้ายก็อยู่ได้ไม่กี่วันพอพ้นคนที่ประกาศตัวจะเป็นนายกฯ ไป ก็ล้มเหลว สุดท้ายก็ไปไม่รอด ไปต่อไม่ได้ 

ส่วนตัวคิดว่าเราต้องช่วยสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันสร้างคนคุณภาพให้ประเทศ และให้การเมืองของประเทศ ไม่ใช่ไปสนับสนุนการทำการเมืองฉาบฉวยเฉพาะกิจเพราะถ้าเราเลือกพรรคการเมืองเฉพาะกิจ เราก็ได้อนาคตเฉพาะกิจให้กับประเทศเช่นกัน ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองกำลังโจมตีและดิสเครดิตพรรคฝ่ายตรงข้าม ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์เองก็ถูกร้องเรียนเรื่อง MV เพลงที่พรรคเพิ่งเปิดตัวไปนั้น นายจุรินทร์ระบุว่า เราก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของเรา เพราะประชาธิปัตย์เราเน้นเรื่องการทำหน้าที่ เน้นในเรื่องของการทำงานให้กับคนไทย ทำงานให้กับประเทศ

เพราะฉะนั้นที่ผ่านมาจะเห็นว่าเราทำ ซึ่งสโลแกนของประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองแรกที่พูดเรื่องการทำ นั่นคือ อุดมการณ์ทันสมัยทำได้ไว ทำได้จริง และต่อมาก็จะเห็นว่ามีหลายพรรคการเมืองก็ทำๆ ตามๆ กันมา แต่ทุกอย่างต้องนับหนึ่งจากความตั้งใจ นับหนึ่งจากการกระทำซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็พิสูจน์ชัดแล้วว่าเราคือพรรคที่ทำจริง ตั้งแต่ปีแรกที่ตนมาเป็นหัวหน้าพรรคก็ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จนแทบไม่มีเวลาพูดเรื่องการเมืองเลย แล้วเราก็พิสูจน์ว่าเราทำได้ไว ทำได้จริง เพราะฉะนั้นเราจะก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป ส่วนเรื่องที่จะมากระทบทุกอย่างก็มีกรอบ กติกากฎหมาย ระเบียบ ทุกอย่างเป็นไปตามนั้นในทุกกรณี และไม่มีใครที่อยู่นอกกรอบกฎหมาย