วันที่ 9 พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงทิศทางการเมืองสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าว่า ตนเชื่อว่าน้ำหนักที่สำคัญในการชี้ชะตาการเมืองไทยยังอยู่ที่ 3 ป. ถ้าทั้ง 3 คน ยังผนึกกำลังกันแน่นได้ โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐจะไปจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยก็คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าทั้ง 3 คนแตกกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย
“วันนี้ต้องยอมรับว่า เมื่อการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา 3 ป. ยังผนึกกำลังกันแน่น และพรรคพลังประชารัฐก็มีความพร้อมทั้งกระแส กระสุน และเครือข่าย แต่ครั้งนี้ต้องกระสุนของพลังประชารัฐยังเต็มที่ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังจับมือกัน แต่กระแส และเครือข่าย ไม่เหมือนเดิมแล้ว”
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า ตนมองว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยอาจจะเป็นการเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายก 2 ปีแรก และให้ พล.อ.ประวิตร เป็นอีก 2 ปีหลัง ถ้าเป็นแนวทางนี้อาจจะยังมีอำนาจที่อาจจะรวมกันแล้วชนะพรรคเพื่อไทยได้ในการจับมือตั้งรัฐบาล
เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะเข้าร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ นพ.ระวี กล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ผนึกกับพรรคนี้จริง 3 ป.ก็สูญพันธุ์ แต่รวมไทยสร้างชาติ อาจจะได้ ส.ส.สัก 50 คน เพราะตนเชื่อว่า ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ จะไหลมาอยู่พรรคนี้ ซึ่งจะทำให้ผลการเลือกตั้งของทั้งพลังประชารัฐและรวมไทยสร้างชาติ ไม่ประสบความสำเร็จ ถึงสุดท้ายอาจจะกลับมาจับมือกันได้ แต่ก็แพ้พรรคเพื่อไทยแน่นอน
"ผมยังเชื่อว่าจะมีการยุบสภาหลังเดือน ก.พ.เพราะรัฐบาลยังต้องรอเวลาเพื่อจะแก้สถานการณ์ และต้องรอให้ ส.ส.ได้ย้ายพรรคให้สะดวก ก็จะต้องยุบสภา เพราะจะสามารถย้ายพรรคได้ใน 30 วัน กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไปอยู่อีกพรรคหนึ่ง ก็จะต้องให้เวลา ส.ส.ได้ย้ายพรรคก่อน วันนี้ถ้าทั้ง 3 คนยังไม่สามารถจับมือกันให้แน่นได้ อำนาจทางการเมืองในหมู่ทหาร ตำรวจ จะลดลงทั้งหมด ข้าราชการก็จะรอแล้วว่า นายใหม่จะเป็นใคร ถ้าทั้ง 2 บิ๊กยังตกลงกันไม่ได้ ผมพูดได้คำเดียวว่า 3 ป.สูญพันธุ์” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี ยังมองความเป็นไปได้ของการจับมือกันอีกครั้งของ 3 ป. หลังการเลือกตั้งว่า ยังรวมกันได้ แต่ทุกท่านก็ทราบว่าการเลือกตั้งตัดสินที่เสียงและเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ฝ่ายใดรวมเสียงได้เกินครึ่งก่อน ฝ่ายนั้นก็เป็นรัฐบาล หากพรรคของ พล.อ.ประวิตร กับพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่พรรคอันดับ 1-2 ก็คงตั้งรัฐบาลยาก
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงเสียงสนับสนุนจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) นพ.ระวี กล่าวว่า เชื่อว่าเลือกตั้งครั้งหน้า หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรวมเสียงกันได้เกินครึ่งสภาฯ ส.ว. ก็คงไม่ขวาง จะไปฝืนหรือเลือกอีกคนหนึ่งเป็น ก็เปิดประชุมสภาฯ ไม่ได้ เมื่อขอนับองค์ประชุมก็ล่ม จึงเชื่อว่า ส.ว. มีวิจารณญาณ
สุดท้าย สำหรับอนาคตของพรรคเล็ก นพ.ระวี ตอบว่า ต้องรอดูว่ากฎหมายการเลือกตั้งออกมาเป็นรูปใด หากหาร 500 ชนะ ก็เป็นรูปหนึ่ง หากหาร 100 ชนะก็เป็นอีกรูปหนึ่ง ตอนนี้มันยังไม่ชัด แต่ช่วงที่ตามที่เรารู้คือคาดว่าคงจะเป็นหาร 100