ไม่พบผลการค้นหา
'หมอระวี' ลั่น สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร 'พรรคเล็ก' เตรียมเข้าชื่อ ร้องศาล รธน. ปม สูตรหาร 100 ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ชี้กระแสสังคมพุ่งเป้า 'ประวิตร' เผย ไม่รู้สึกถูกหลอก แต่เป็นอำนาจแต่ละพรรคตัดสินใจ

วันที่15 ส.ค. 2565 ที่รัฐสภา หลังการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ล่มลงในวันสุดท้ายที่จะครบกำหนดกรอบเวลา 180 วัน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 132 นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ขอบคุณ ส.ส. และส.ว. ที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

แต่เมื่อสภาล่มก็ได้ข้อสรุปว่า รัฐสภารับรองร่างหาร 100 ของรัฐบาล ซึ่ง ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาต้องรวบรวม และส่งต่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาต่ออีก 10 วัน และส่งต่อให้นายกรัฐมนตรีเพื่อทูลเกล้าฯ ภายใน 15 วัน ซึ่งจะเป็นเวลาที่พรรคเล็ก และคนที่เห็นด้วยกับสูตรหาร 500 จะเข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ 

นพ.ระวี กล่าวว่า ในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.) ผู้ที่รับผิดชอบร่างที่เห็นว่าสูตรหาร 100 ขัดต่อรัฐธรรมนูญจะทำร่างให้แล้วเสร็จภายใน 3 วัน ก่อนจะส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย และพรรคเล็กร่วมเข้าชื่อให้แล้วเสร็จภายในวันศุกร์นี้ (19 ส.ค.) หลังจากนั้นจะระดม ส.ส. และส.ว. 1 ใน 10 ของสมาชิกทั้งสองสภาคือประมาณ 75 คน เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งถือว่าเป็นภาระที่ต้องหารายชื่อ โดยจะใช้เวลาประมาณสัปดาห์หน้า และตนประเมินว่า จำนวน ส.ส.ประมาณ 50 คน ส่วน ส.ว. อีก 25 คน 

"หากได้รายชื่อไม่ครบก็ถือว่าจบ เพราะฉะนั้นวันนี้แม้ว่าสภาล่ม แต่กลุ่มพรรคเล็ก ยืนยันว่าสงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร เหลือทางเลือกสุดท้ายคือยื่นศาลรัฐธรรมนูญ หรือถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีกลับว่า สูตรหาร 100 ถูก ก็ถือว่าสงครามจบ เป็นสิ่งที่ต้องเดินตามกฎหมายของประเทศในการเลือกตั้งครั้งหน้า" นพ.ระวี กล่าว  

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากกลับไปใช้สูตรหาร 100 กลุ่มพรรคเล็กจะมีเตรียมตัวในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างไร นพ.ระวี กล่าวว่า มีทางออกอยู่ 3-4 ทาง ทางที่หนึ่งคือ ยุบพรรคตัวเองไปอยู่พรรคใหญ่ หรือบางคนสู้ต่อไป ก็ไปลงเขตพรรคเล็กบางพรรคก็อาจจะควบรวมกันทั้งพรรคในสภา และนอกสภา ส่วนบางพรรคที่พอไหวก็น่าจะสู้ต่อไป ขึ้นอยู่กับสภาพของแต่ละพรรค 

ส่วนกรณีที่ตนได้พูดว่า หากสภาล่ม หอกจะทิ่มแทง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นพ.ระวี กล่าวว่า วันนี้ที่สภาล่มเพราะองคุลิมาลกลับใจเข้ามาสภายังไม่ได้พบพระพุทธเจ้า วันนี้ต้องตรวจสอบ แต่ตนนั่งมองด้วยสายตาพบว่า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีเพียง 7 คนเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็น ส.ส.กทม. แม้ว่า พล.อ.ประวิตร อาจจะไม่ได้อยู่เบื้องหลังจับมือเพื่อไทย แต่ท่านต้องรับหอกจากประชาชน และสื่อต่างๆ พุ่งไปที่ท่าน และต้องยอมรับว่าท่านถูกกระแสสังคมพอสมควร 

ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเล็ก และพรรคพลังประชารัฐนั้น นพ.ระวี กล่าวว่า ต่อให้มีการร่วมมือของสองพรรคใหญ่จริง พล.อ.ประวิตร ก็คงไม่ได้สนใจถึงชั้นจะมาทำลายพรรคเล็ก แต่มันเป็นไปตามกติกา ซึ่งพรรคเล็กยากที่จะรอดได้ ตนคิดว่า แม้เหตุการณ์เป็นแบบนี้ ส.ส.พรรคเล็กคงไม่แถลงถอนตัวพรรคร่วม ถ้าจะมีพรรคเล็กถอนตัวออกก็น่าจะเป็นปัญหาอื่น และหากมีการร่วมมือจริง ตนมองว่า แฟนคลับพรรคพลังประชารัฐจะกลับไปเลือกพรรคขนาดเล็ก และพรรคขนาดกลางแทน และถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ไปต่อ ก็ถึงเวลานับถอยหลัง

"ไม่ได้คิดว่าถูกหลอก แต่ละพรรคที่ตัดสินใจทำอะไรก็ยืนอยู่บนผลประโยชน์ของพรรค เมื่อแย้งกับพรรคเล็กก็เป็นอำนาจการตัดสินใจของเขา ที่จะเดินเกมทำให้สภาเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นคณาธิปไตยมีการใช้เงิน การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นโชคดีของประชาชนที่เป็นบัตร 2 ใบ แต่ผันเงินให้ประชาชนเยอะขึ้น" นพ.ระวี กล่าว