อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติถอนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ ออกจากวาระ 2 จนทำให้เกิดกระแสความขัดแย้งกับพรรคประชาธิปัตย์ ว่า เป็นเรื่องความเห็นไม่ตรงกันในสภา เป็นเรื่องของแต่ละพรรคการเมือง ขออย่าเรียกว่าความขัดแย้ง ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พรรคภูมิใจไทยก็ไม่เห็นด้วยกับการคิดดอกเบี้ย กยศ. ของพรรคประชาธิปัตย์และพรรคพลังประชารัฐ กรณีเช่นนี้ทำไมไม่เรียกว่าความขัดแย้ง ซึ่งถือว่าเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค และเรายังเคารพกติกา เช่นเดียวกับเรื่อง พ.ร.บ.กัญชาฯ ที่ส่วนใหญ่มีมติให้กลับไปทบทวน ก็ต้องเคารพไม่ได้มีความขัดแย้งอะไร
ส่วนภาพที่ปรากฏภาพกอดคอทานข้าวเที่ยงกับ สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ปชป.นั้น เป็นเพียงการส่งผ่านข้อความ LINE ให้กับนักข่าวที่สอบถามมา ไม่ได้เผยแพร่ และไม่คิดว่านักข่าวท่านนั้นจะเอามาลง ซึ่งจากการร่วมทานข้าวไม่มีอะไรที่ติดใจกัน และในระดับหัวหน้าพรรคก็ไม่เคยคุยกัน ที่ผ่านมาเป็นการพูดคุยผ่านวิปรัฐบาล
พร้อมยืนยันว่า ใน พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องสันทนาการ เป็นเรื่องทางการแพทย์ สุขภาพ และอุตสาหกรรม ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ประเด็นมันปล่อยให้เป็นเรื่องการเมืองอะไรก็ว่ากันไป ก็ว่ากันไปตามมติไป และนำเสนอเข้ามาใหม่ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภา แต่ในส่วนของการทำงานก็ไม่มีปัญหาอะไรยังคงใช้ประกาศกระทรวงในการกำกับดูแลไม่มีอะไรที่จะกระทบกระเทือนมติของสภา ซึ่งในเรื่องนโยบายสามารถเดินหน้าต่อไป
ทั้งนี้ ขออย่าคิดว่าในอนาคตพรรคภูมิใจไทย จะไม่เห็นด้วยกับกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ขออย่าคิดว่าคนละทีสองที ซึ่งกฎหมายใดที่ไม่เห็นด้วย ก็แปลว่าไม่มีผลดีกับประชาชน ภูมิใจไทยเป็นพรรคที่ถึงพี่น้องประชาชน อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนพรรคภูมิใจไทยเห็นด้วยหมด
ทั้งนี้ หาก พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่ผ่านวาระ 3 จะมองหน้ากันติดหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า จะเลือกตั้งกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ เราไม่ได้คิดถึงตรงนั้น หากวาระ 3 ไม่ผ่านก็เป็นเรื่องของสภา ดังนั้นที่พรรคอื่นบอกว่าอยากให้มีความละเอียดรอบคอบในเรื่องของกัญชา ก็ไม่ได้ต้องการให้เป็นแบบนั้นจริง
ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่า รอยร้าวที่เกิดขึ้น มาจากที่พรรคภูมิใจไทยลงไปในพื้นที่พรรคใต้นั้น อนุทิน ระบุว่า เราไม่สามารถห้ามความคิดใครได้ แต่เรื่องนี้ภูมิใจไทยไม่คิด มีคนจะมาดึง ส.ส. สองพี่น้องอ่างทองจากเราไปด้วยซ้ำ ซึ่งยืนยันว่าทั้งหมดไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่ของพรรคก็ทำงานอย่างเต็มที่ และยืนยันว่าจะไม่ติดใจไปจนถึงหลังการเลือกตั้ง ในภาษาอังกฤษเรียกว่า in the name of the game เพราะนี่คือเกมการเมืองก็ว่ากันไป ไม่ได้มีอะไรทะเลาะกันในเรื่องของส่วนตัว โตๆกันจนป่านนี้แล้วเราต่างคนต่างทำงาน
ส่วนที่ในขณะนี้มีข้อวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเงินกู้กยศ. และนโยบายกัญชานั้น หวั่นไหว และจะเดินหน้าต่อสู้ต่อไปหรือไม่ อนุทิน ระบุว่า ก็ต้องมองหลายอย่าง พรรคภูมิใจไทยคิดนโยบายอะไรมาก็ต้องทำให้ได้ก่อน เพราะพูดแล้วทำ ซึ่งการจะผลักดันนโยบายอะไรออกมาก็ต้องทำให้ได้ และพรรคภูมิใจไทยไม่เคยสนใจว่าพรรคการเมืองอื่นจะมีนโยบายอะไร ไม่ด้อยค่า เราก็ทำงานของเราแบบนี้ มองไปข้างหน้าอย่างเดียว