ไม่พบผลการค้นหา
มินอ่องหลายน์ เผด็จการหัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมาประกาศว่า วิกฤตในประเทศของตนอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว และกลุ่มเผด็จการของพวกตนจะพยายามในทุกหนทาง เพื่อจัดการเลือกตั้งขึ้นในปีหน้าให้ได้ตามที่มีการวางแผนยุทธศาสตร์เอาไว้ โดยการเลือกตั้งจะต้องไม่มีการแทรกแซงจากต่างชาติ

จากการให้สัมภาษณ์ที่แทบไม่เคยมีมาก่อนกับทางสื่อรัสเซีย RIA ของมินอ่องหล่ายน์เมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) เผด็จการหัวหน้าคณะรัฐประหารระบุว่า ยังคงเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการเลื่อนการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้มีกำหนดเวลาที่ชัดเจนว่าจะเป็นช่วงไหนของเดือน ส.ค.ปีหน้า และกองทัพเมียนมายังมีเวลาเหลืออยู่อีกมาก ในการฟื้นคืนความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ

“เราสัญญาไว้ว่าเราจะจัดการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ และเรากำลังพยายามทำด้วยอำนาจทุกอย่างที่มี เพื่อให้บรรลุมันให้ได้” มินอ่องหล่ายน์ระบุกับสื่อรัสเซีย “นอกจากนี้ การเลือกตั้งจะต้องจัดขึ้นโดยไม่มีแรงกดดันจากภายนอก มิฉะนั้นมันจะไม่ยุติธรรมและโปร่งใส และเราจะดำเนินการเลือกตั้งของเราเองโดยไม่มีแรงกดดันจากภายนอก” เผด็จการเมียนมาย้ำ

เมียนมาเข้าสู่วิกฤตการทางการเมืองรุนแรง นับตั้งแต่เกิดการทำรัฐประหารโดยกองทัพเมื่อเดือน ก.พ.ปีก่อน เพื่อโค่นล้มอำนาจรัฐบาลพลเรือนของ อองซาน ซูจี มุขมนตรีแห่งรัฐ ก่อนทำการสั่งขังเธอ พร้อมกันกับแกนนำรัฐบาลพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ตลอดประชาชนอีกร่วมหมื่นราย นอกจากนี้ ยังมีประชาชนและกองกำลังชนกลุ่มน้อยอีกหลายพันรายที่ถูกสังหารโดยกองทัพเมียนมา จากความพยายามในการต่อต้านระบอบรัฐประหาร

สหประชาชาติได้กล่าวหาว่า เผด็จการเมียนมาได้ก่อการฆาตกรรมหมู่ และก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ อย่างไรก็ดี เผด็จการเมียนมากล่าวหากลับว่า ข้อกล่าวหาดัวกล่าวเป็นความพยายามในการแทรกแซงจากต่างชาติ 

นอกจากนี้ ชาติประชาธิปไตยในระดับสากลยังประกาศคว่ำบาตรและตัดขาดกับเผด็จการเมียนมา พร้อมทั้งเรียกร้องการปล่อยตัว อองซาน ซูจี และแกนนำรัฐบาล ตลอดจนประชาชนทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข ปัจจุบันนี้ อองซาน ซูจี ถูกศาลของเผด็จการทหารสั่งจำคุกรวมกันแล้วกว่า 20 ปี และถ้าหากเธอถูกตัดสินว่ามีความผิดในทุกข้อกล่าวหา เธออาจถูกสั่งจำคุกรวมกันนานถึง 200 ปี

จากรายงานการวิเคราะห์ของสภาที่ปรึกษาพิเศษแห่งเมียนมา กลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระระหว่างประเทศสรุปว่า กองทัพเมียนมาควบคุมอำนาจของตนได้อย่างมีเสถียรภาพเพียงแค่ 17% ของพื้นที่ทั่วทั้งประเทศ ในขณะที่เผด็จการเมียนมาอ้างว่า ตนสามารถควบคุมอำนาจทั้งประเทศได้ภายใต้การบริหารของตนในตอนนี้

มินอ่องหล่ายน์ซึ่งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดทางเศรษฐกิจที่รัสเซียกล่าวว่า เมียนมากำลังอยู่ในกระบวนการซื้อน้ำมันจากรัสเซียและจ่ายค่าน้ำมันดังกล่าวด้วยสกุลเงินรูเบิล เนื่องจากมีปัญหาในการใช้สกุลเงินอื่น หลังจากตนถูกกีดกันจากนานาชาติ หลังจากการทำรัฐประหาร จนเมียนมาถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก ส่งผลให้เผด็จการเมียนมาต้องหาหน้าไปคบค้ากับทางรัสเซีย ซึ่งก็ถูกคว่ำบาตรจากนานาชาติเช่นกัน หลังจากการทำสงครามเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา

มินอ่องหล่ายน์กล่าวว่า ทั้งเมียนมาและรัสเซียต่างต้องการสันติภาพและเสถียรภาพ ก่อนอ้างว่ามีเงินทุนและอาวุธจากต่างชาติ ที่ถูกส่งมอบมาให้แก่ “กลุ่มก่อการร้าย” ในเมียนมา ซึ่งมินอ่องหล่ายน์ระบุว่า ตนจะไม่มีวันยอมอ่อนข้อให้กับกลุ่มผู้ต่อต้านคณะรัฐประหารเด็ดขาด ทั้งนี้ ประชาชนและกองกำลังชนกลุ่มน้อยหลายคนถูกจับกุมตัว ภายใต้การถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ากระทำการเข้าข่าย “ก่อการร้าย”

“สถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุม ปีที่แล้วมีเหตุการณ์อื่นๆ อีกมากมาย เหตุการณ์เหล่านี้มีความรุนแรงมากขึ้น โดยตั้งแต่เดือน เม.ย.ของปีนี้ จำนวนและขนาดของเหตุการณ์กลับลดลง แม้ว่าจะค่อยๆ ลดลงแต่ก็มีนัยสำคัญ” มินอ่องหล่ายน์กล่าวกับสื่อรัสเซีย


ที่มา:

https://www.reuters.com/world/asia-pacific/myanmar-conflict-under-control-junta-chief-says-2022-09-07/