ต่างประเทศ
จีนขอเผด็จการเมียนมาคุยกับฝ่ายตรงข้าม สร้างปรองดองเลี่ยงสงครามกลางเมือง
จีนยังคงเป็นพันธมิตรหลักของกองทัพเมียนมาไม่กี่ชาติบนโลกใบนี้ ที่ยังคงส่งอาวุธให้กับทางกองทัพเมียนมา และปฏิเสธที่จะตัดความสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมา ผู้ที่ทำการรัฐประหารล้มอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของ อองซาน ซูจี ซึ่งปัจจุบันกำลังถูกคุมขังโดยคำสั่งของคณะรัฐประหาร
หวางอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ระบุขณะการเยือนเมียนมาว่า จีนหวังว่าทุกภาคส่วนของเมียนมาจะ “ยึดมั่นในการปรึกษาหารืออย่างมีเหตุมีผล” และ “มุ่งมั่นที่จะบรรลุความปรองดองทางการเมือง”
จากแถลงการณ์บนเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศจีน หวางอี้ยังได้กล่าวกับ วันนา หม่อง ลวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมียนมา ที่ได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐประหารของ มิน อ่อง หล่ายน์ ว่า “จีนหวังอย่างจริงใจว่าเมียนมาจะมีเสถียรภาพทางการเมืองและสังคม”
จากการเดินทางเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน อย่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มายังเมียนมานับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อปีก่อน หวางอี้ได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมกันกับตัวแทนจากชาติอื่นๆ ได้แก่ กัมพูชา ไทย ลาว และเวียดนาม
การแสดงความเห็นของหวางอี้ เกิดขึ้นหลังจากที่เผด็จการเมียนมาออกมากล่าวเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนว่า การพูดคุยระหว่างกองทัพเมียนมา กับ อองซาน ซูจี ผู้นำประชาธิปไตยที่ถูกโค่นลงจากอำนาจด้วยการรัฐประหาร เพื่อหาทางออกจากความโกลาหลในปัจจุบันนั้น “ไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้”
สงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพเมียนมา กับกองกำลังชาติพันธุ์และกองกำลังประชาชนฝ่ายประชาธิปไตย สร้างความกังวลให้กับประเทศเพื่อนบ้านของตน โดยแต่ละชาติได้มีการส่งคณะผู้แทนของตน เพื่อเริ่มการเปิดบทสนทนาระหว่างกองทัพเมียนมากับฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง
นอกจากนี้ หลังจากการรัฐประหารของกองทัพเมียนมาเมื่อปีก่อน และการปราบปรามประชาชนด้วยความรุนแรงตลอดระยะเวลานานนับปีที่ผ่านมา รัฐบาลของประเทศประชาธิปไตย โดยเฉพาะชาติตะวันตกตัดสินใจคว่ำบาตรเมียนมา ส่งผลให้กองทัพเมียนมาหันหน้าสร้างความสัมพันธ์ และพึ่งพารัฐบาลจีนและรัสเซียมากยิ่งขึ้น
เมื่อช่วงเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มกองกำลังชาติพันธุ์ในเมียนมาที่ทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศ ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันกับรัฐบาลจีน ได้ออกมาเรียกร้องให้เผด็จการเมียนมาเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างบทสนทนากับฝ่ายตรงข้าม เพื่อยุติการยกระดับความรุนแรงลง ซึ่งจะส่งผลต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของจีนในเมียนมาด้วย
ทางการจีนได้ออกมาระบุเมื่อช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาว่า ตนพร้อมจะให้ความช่วยเหลือในการคุ้มครองอธิปไตย เอกราช และบูรณภาพแห่งดินแดนของเมียนมา “ไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรก็ตาม”
ที่มา:
