วันที่ 8 ก.ย. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงวาระการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคชุดรักษาการ วันนี้ว่าจะพิจารณาวาระหลัก 2 เรื่อง คือ
1.หลักเกณฑ์และคุณสมบัติการคัดเลือกทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการและกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร เพื่อจัดสรรให้ตรงกับความรู้ความสามารถ แต่ขณะนี้การตกลงของสภายังไม่เรียบร้อย
2. การกำหนดวันเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องดำเนินการภายใน 60 วันนับ คาดว่าจะจัดขึ้นราว ปลายเดือน ก.ย. หรือต้นเดือน ต.ค.
พร้อมกันนี้ ภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย อาจดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ส่วนตัวไม่ได้เห็นกระแสข่าวดังกล่าว โดยระบุว่าในพรรคมีบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมหลายคน โดยจะต้องรับฟังความเห็นจากคนในพรรค เชื่อว่าจะมีผู้ถูกเสนอชื่อมากกว่านี้อีก โดยยินดีรับฟังความเห็น
ขณะเดียวกันระบุว่าให้สอบถามเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกระแสข่าวรายชื่อบุคคลนั่งตำแหน่งโฆษกรัฐบาลที่มีชื่อ นายสัตวแพทย์ชัย วัชรงค์ และยอมรับว่าโดยกรอบ ตำแหน่งโฆษกเป็นของพรรคเพื่อไทยและรองโฆษกเป็นของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้คุยรายละเอียดงานในกระทรวงที่รับผิดชอบ รวมถึงนายกรัฐมนตรียังไม่ได้มีการแบ่งงานให้กับรองนายกรัฐมนตรี
ภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการแถลงนโยบายในสัปดาห์หน้าของรัฐบาลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ได้มอบเล่มนโยบายให้รัฐมนตรีแต่ละคนไปพิจารณา ซึ่งพรรคเพื่อไทยได้วางกรอบหลักไว้ และได้การยอมรับจากพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งหากนโยบายของพรรคร่วมไม่ได้ขัดกับกรอบหลักก็สามารถที่จะนำมาปรับเพิ่มเติมได้ หากนายกรัฐมนตรีได้อ่านแถลงนโยบายเสร็จสิ้น ก็ถือว่าการแถลงนโยบายจบ ขณะเดียวกันก็ยินดีรับฟังความเห็นจากฝ่ายค้านที่จะอภิปราย
"กรอบนี้เป็นกรอบใหญ่ที่ครอบคลุมทุกประเด็นที่เราหาเสียงไว้ และพรรคร่วมต่างๆ ได้หารือร่วมกัน ไม่ขัดต่อกรอบที่ได้พูดคุยกันไว้ ส่วนรายละเอียดอาจจะใช้เวลาของสภามากเกินไป จึงคิดว่ากำหนดไว้ในการอภิปราย 2 วัน น่าจะเหมาะสม ส่วนรายละเอียดอันไหนขาดความชัดเจนก็ไปสอบถามจากรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงได้ทุกคนสามารถชี้แจงได้ ไม่มีอะไรน่ากังวล" ภูมิธรรมกล่าว
ภูมิธรรม ยังกล่าวถึงการแบ่งโควตากรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรที่พรรคก้าวไกลต้องการนั่งเป็นประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.) เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยระบุว่า อยู่ที่สภาและวิปแต่ละฝ่ายตกลงกัน ได้หารือกับรองประธานสภาที่รับผิดชอบ ชี้ว่าไม่มีหลักปฏิบัติที่เป็น 100% เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทุกยุคทุกรัฐบาล แต่ขึ้นอยู่ที่ประชุมของพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกันอย่างไร
"บางครั้งก็พูดด้านเดียวว่าเคยปฏิบัติ แบบนี้ไม่เคยปฏิบัติแบบนี้ แสดงว่ามีความคิดเพื่อแฝงซ่อนเร้น ซึ่งไม่ใช่เช่นนั้น แต่เป็นการตกลงด้วยความพอใจของทุกฝ่าย เป็นเรื่องของรัฐสภาที่จะต้องตกลงกันให้ได้ ซึ่งฝ่ายบริหารไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง" ภูมิธรรม ระบุ
ภูมิธรรม กล่าวถึงการเดินทางเข้ากระทรวงพาณิชย์ครั้งแรก เมื่อวานนี้ (7 ก.ย.) โดยเผยว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ช้าราชการให้การต้อนรับอบอุ่น ซึ่งยังไม่ได้เข้าไปสั่งการ หรือให้นโยบายอะไร
ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับปลัดกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงเชิญอธิบดีแต่ละกรมมาพูดคุยกัน เพื่อเป็นการเปิดใจ และรับฟังข้อเสนอแนะ พร้อมทั้งได้บอกกับทุกคน ว่า ตัวเองมาด้วยความเชื่อมั่นว่าข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ทุกคนเป็นมืออาชีพ ส่วนที่ผ่านมาการได้อยู่กับรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายรัฐบาล ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับ และไม่ได้ติดใจอะไร ขอเพียงเมื่อเปลี่ยนแปลงฝ่ายนโยบายมา แล้วทำตามหน้าที่ก็พอ
"ผมพร้อมตลอด 24 ชั่วโมง อะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วนให้มาบอกได้เลย ที่สำคัญคือ อยากให้พูดความจริง ถ้าพูดความจริงแล้วไม่ต้องกังวลว่าพอใจตนเองหรือไม่พอใจ เพราะความจริงเท่านั้นที่จะทำให้จัดการและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดที่สุด"
ภูมิธรรม ยังกล่าวว่า วันที่ 14 ก.ย. นี้ หลังแถลงนโยบายจะเข้ากระทรวงฯ เพื่อมอบนโยบาย และเมื่อวานนี้อยู่กระทรวงฯ จนถึง 19.00 น. ก่อนจะยิ้มแล้วกล่าวต่อว่า ถือเป็นนิมิตหมายวันแรกทำงานหนักอย่างนี้ ข้าราชการจะทำงานหนัก แต่ทุกคนก็บอกว่าพร้อม ซึ่งก็สบายใจขึ้นเยอะ เพราะทุกคนเป็นมืออาชีพ มีศักยภาพ มีความสามารถ หวังว่าจะทำงานร่วมกันด้วยดี
เมื่อถามว่าจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเหมือนท่านนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ภูมิธรรม ร้องโห! แล้วพูดต่อว่า “รัฐบาลนี้ทำงานหนักทุกคนแหละครับ”