ไม่พบผลการค้นหา
'ภูมิธรรม' ยันรัฐบาลพร้อมตอบซักฟอก สว.ปลาย มี.ค.หลังนายกฯ กลับยุโรป ขอรอฟังเนื้อหาอภิปรายก่อนกำหนดจำนวนวัน

วันที่ 6 ก.พ. ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีการกำหนดกรอบเวลาการเปิดอภิปรายทั่วไปของสมาชิกวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกันแล้ว โดยจะใช้เวลาในช่วงปลายเดือนมีนาคม เนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจ และต้องเดินทางเยือนต่างประเทศ ทางออสเตรเลีย และประเทศในแถบยุโรป ดังนั้น จึงจะต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเสร็จภารกิจจากประเทศในแถบยุโรปก่อน พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่ทำให้ยืดเยื้อ จนสมาชิกวุฒิสภาหมดวาระ

ภูมิธรรม ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้หนักใจต่อการเปิดอภิปรายดังกล่าว เพราะไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่รัฐบาลก็พร้อมรับฟังมุมมองที่แตกต่างของสมาชิกวุฒิสภา ที่จะสะท้อนความเห็นมายังรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะตอบชี้แจง ไม่มีการหลีกเลี่ยง หรือหลีกหนี

ส่วนการกำหนดจำนวนวันการอภิปรายที่วิปรัฐบาลเสนอให้ สว. 1 วันนั้น นายภูมิธรรม ชี้แจงว่า จะต้องขึ้นอยู่กับเนื้อหา หากมีประเด็นการอภิปราย ก็สามารถต่อรองได้ เพราะตนเองไม่อยากให้มีการขอเวลา 2-3 วัน ทั้งที่ยังไม่ทราบเนื้อหาการอภิปรายซึ่งไม่มีมาตรฐาน จึงอยากให้นำความจริงมาพูดกัน ไม่ใช่จินตนาการ เพราะไม่ได้เรื่องใดน่าหนักใจอยู่แล้ว และรัฐบาบพร้อมชี้แจงตอบตรงไปตรงมา ซึ่งหากมีประเด็นเรื่องเวลาก็ไม่ใช่ปัญหา

ภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา เรียกร้องให้รัฐมนตรีไปตอบกระทู้ถามของสมาชิกวุฒิสภาว่า โดยหลักการนายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้รัฐมนตรี จัดตารางเวลา และไปร่วมตอบกระทู้ถามหากไม่ติดขัดภารกิจอื่น หรือมอบหมายรัฐมนตรีคนอื่น แต่มีปัญหาว่าขณะนี้ รัฐมนตรีมีภารกิจมาก และบางคนก็มีภารกิจกะทันหัน แต่มั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา เนื่องจากนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการแล้ว แม้จะไม่มีการตั้งกระทู้ถาม ก็ขอให้คณะรัฐมนตรี ไปใช้เวทีสภาในการทำงาน


ย้ำดำเนินคดีตามกฎหมาย 'กางเกงช้างละเมิดลิขสิทธิ์'

ภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีออกมาตรการดูแลเรื่องกางเกงช้างที่ละเลิดลิขสิทธิ์ทางปัญหาทำให้พ่อค้าแม่ค้ากังวลว่าจะเกิดผลกระทบ ว่า เราลงไปข้างต้นก็ใช้มาตรการเฉพาะหน้าในการดูสินค้าที่เข้ามาตามชายแดนก็ไม่ได้กระทบอะไรกับผู้ประกอบการ แต่เราไปดูว่าสินค้านี้มีปัญหากระทบกระเทือนกับผู้บริโภคหรือเปล่า ในขณะเดียวกันเราก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อกางเกงช้างและผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าของประเทศไทยต้องดูเพื่อไม่ให้มีผลกระทบเพราะสินค้าโดยเฉพาะตราช้างมันมีการจดลิขสิทธิ์ในหลายรูปแบบเพราะมีสัญลักษณ์ของมันที่ชัดเจน 

"ถ้าอันนี้ไม่กระทบถึงลิขสิทธิ์เราก็ต้องดูว่าจะใช้มาตรการใดแต่หากกระทบต่อลิขสิทธิ์ยังไงก็ต้องดำเนินการ เพราะกฎหมายไม่ได้เปิดให้ผู้ประกอบการ ขายสินค้าที่ละเมิดลิขสิทธิ์อยู่แล้วกฎหมายมีอำนาจหน้าที่ไปควบคุมดูแลไม่ให้เกิดการละเมิด ถ้าเราปล่อยปละละเลยก็จะมีผลกระทบต่อสินค้าที่เราค้าขายกับต่างประเทศ เขาก็ไม่ยอมรับ "

ภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ตอนนี้ตนได้ดูเรื่องของคุณภาพ โดยเฉพาะสินค้าไทย ส่วนสินค้าที่ไม่ถูกลิขสิทธิ์ มีราคาถูกจริง แต่สะบัด 2 ทีก็ขาดแล้ว เพราะมีความบางมาก เป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพแต่สินค้าไทยที่ทำผมว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน พร้อมย้ำว่าอย่าให้พ่อค้าแม่ค้ากังวลใจไปเลย ถ้าไม่ใช่สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นสินค้าที่เราละเมิดลิขสิทธิ์เราต้องดำเนินการ ส่วนหากจะต้องควบคุมหรืออย่างไรก็ต้องไปดูในหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่ฟังแค่ข่าววันสองวันที่ออกสื่อแล้วจะใช้เป็นมาตรการที่ลงไปควบคุม แต่เป็นเพียงการจะกระตุ้นให้ว่าเขาก็กังวลใจเรื่องนี้เราก็ลงไปดูไม่ให้กระทบสิทธิ์ของทุกคน และให้เป็นไปตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าทางกรมศุลกากร จะวางกรอบเวลาในการลงไปดูแลสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างไรบ้าง ภูมิธรรม กล่าวย้ำว่าเป็นไปตามกฎหมาย ตอนนี้กรมศุลกากรไม่ได้ทำงานคนเดียว แต่ก็ร่วมกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา ถ้าละเมิดลิขสิทธิ์ก็ควบคุมไม่ให้นำเข้าแน่นอน ถ้าเข้ามาก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย