ไม่พบผลการค้นหา
‘แพทองธาร’ ผู้นำหญิงบนเวที UNESCAP ในวันสตรีสากล 2024 ย้ำหมุดหมายผลักดันผู้หญิงในสนามการเมือง และการทำนโยบายเพื่อลดอุปสรรคทางเพศ

วันที่ 8 มีนาคม 2567 เนื่องในวันสตรีสากล แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์เนื่องในวันสตรีสากล ณ UNESCAP องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนผู้หญิงจากพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย , สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และ ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

การปรากฏตัวบนเวที UNESCAP นี้ ถือเป็นการส่งเสียงจาก ‘ผู้นำหญิง’ ในสนามการเมือง นำทัพพรรคเพื่อไทยทั้งการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ปัจจุบันคือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สถาบันการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นพื้นที่ของผู้ชาย

แพทองธาร ยืนยันว่าผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ เรามีผู้นำหญิงมากมายทั้งในภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม แม้ผู้หญิงจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศและประเทศไทยเคยมีนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงมาแล้ว แต่การผลักดันผู้หญิงให้เข้ามามีส่วนร่วมในแวดวงการเมืองยังเป็นเรื่องสำคัญของประเทศไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อัตราส่วนของ สส. หญิง มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากอดีต แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของสภาทั่วโลก โดยพรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคการเมืองที่มีสัดส่วนนักการเมืองผู้หญิงมากที่สุดในประเทศไทย

แพทองธารย้ำว่า ที่ผ่านมาการทำงานของพรรคเพื่อไทยเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงได้มีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนวิธีคิดที่สังคมมีต่อผู้หญิง (empowerment) ให้โอกาสผู้หญิง และผลักดันนโยบายเพื่อลดอุปสรรคทางเพศ และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ผลักดันเพียงเพศใดเพศหนึ่ง แต่คำนึงถึงความสามารถ ความเป็นไปได้ และความพร้อมของบุคลากรเป็นหลัก โดยไม่ได้มีข้อจำกัดทางเพศ 

นอกจากนี้ แพทองธาร ได้พูดถึงแนวทางนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่พร้อมสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงไทยไม่ว่าจะเป็น นโยบายฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก การส่งเสริมและพัฒนาการคุ้มครองสวัสดิภาพเพื่อปกป้องและเยียวยาเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว นโยบายหนึ่งครอบครัว หนึ่งศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ (One Family one Soft Power) และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และย้ำถึงประเด็นที่ยังต้องผลักดันเพื่อลดช่องว่างระหว่างเพศกันต่อไป ทั้งการขยายวันลาคลอด สิทธิ์ในการเข้าถึงผ้าอนามัย สวัสดิการเด็กแรกเกิด และประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องต่อสู้กับค่านิยมและมายาคติในสังคม โดยอาศัยเวลาและเชื่อมั่นจากประวัติศาตร์ที่ผ่านว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้

“พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล เราเชื่อว่า เศรษฐกิจที่ดีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้ทุกเพศทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องความเท่าเทียมในระยะยาวได้มากที่สุดค่ะ เพราะการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจเป็นอำนาจที่สำคัญที่สุด” แพทองธาร กล่าว